สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่าองค์กรสวนพฤกษศาสตร์นานาชาติเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์พืช ( บีซีจีไอ ) เผยแพร่รายงาน "สถานะต้นไม้โลก" ซึ่งใช้เวลาศึกษายาวนาน 5 ปี รวบรวมข้อมูลจากต้นไม้ 58,947 สายพันธุ์บนโลก ปรากฏว่า อย่างน้อย 30% หรือราว 17,500 สายพันธุ์ เผชิญกับภาวะใกล้สูญพันธุ์ ต้นไม้ 142 สายพันธุ์ น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว และต้นไม้ 440 สายพันธุ์ อาจมีจำนวนเหลือบนโลก เพียงสายพันธุ์ละไม่ถึง 50 ต้น
ขณะที่ต้นไม้อีก 21 สายพันธุ์ "ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์" และมีต้นไม้เพียงประมาณ 40% ของทั้งหมดในรายงาน ซึ่งไม่อยู่ในสถานะ "อันตราย" ทั้งนี้ ในส่วนของต้นไม้ซึ่งบีซีจีไอจัดว่าอยู่ในสถานะอันตรายหรือใกล้สูญพันธุ์นั้น รวมถึง แมกโนเลีย โอ๊ก เมเปิล และไม้มะเกลือ
ทั้งนี้ รายงานของบีซีจีไอระบุด้วยว่า อัตราการคัดไม้ทำลายป่าบนโลกยังคงสูง โดยพื้นที่น่าเป็นห่วงรวมถึงลุ่มน้ำแอมะซอน ซึ่งครอบคลุมอาณาเขตในบราซิลมากที่สุด มีต้นไม้ 8,847 สายพันธุ์ จากจำนวนดังกล่าว 1,788 สายพันธุ์มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนั้นยังมีผืนป่าในอินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน โคลอมเบีย และเวเนซุเอลา ซึ่งผืนป่าในพื้นที่อยู่ในภาวะอันตราย และคณะผู้จัดทำรายงานเตือนด้วยว่า การที่ไม่สามารถฟื้นฟูพื้นที่ป่าให้กลับคืนได้ภายในเวลาที่เหมาะสม สุ่มเสี่ยงทำให้ "โครงสร้างทั้งหมดของระบบนิเวศ" ต้องล่มสลาย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES