จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 26/2565 แต่งตั้งคณะกรรมการให้แก้ไขดำเนินการให้ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 150 คนกลับไปในพื้นที่กลางป่าลึกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มรดกโลกได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ไม่พอใจในคำสั่งดังกล่าว

‘ชัยวัฒน์’ เห็นแย้งคำสั่ง ‘บิ๊กตู่’ ส่ง ‘กะเหรี่ยงบางกลอย’ กลับเข้าป่าแก่งกระจานมรดกโลก

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายสุรพล นาคนคร ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี เปิดเผยใจว่า กรณีดังกล่าวต้องพิจารณาให้รอบคอบเพราะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คนกลุ่มนี้มาจากไหนมีสถานะอย่างไร มีการไปกดดันโดยการตั้งม็อบอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล มีการแก้ไขปัญหาซึ่งไม่ได้ยึดหลักทางกฎหมาย และความเป็นธรรมที่แท้จริง เพียงแต่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเปิดช่องให้กลุ่มชาติพันธุ์กลับไปอยู่อาศัยในป่าอีก เรื่องนี้คนเพชรบุรียอมไม่ได้ ต้นเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องอพยพคนกลุ่มนี้ลงมา สถานะขณะนั้น 57 ครอบครัวที่นำลงมา ก็ไม่ใช่คนไทยอยู่แล้ว อาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนในพื้นที่ของกรมอุทยาน หลายคนพูดว่าเขตอุทยานมาประกาศภายหลัง ตนไม่เถียงแต่อุทยานมาตั้งอยู่ในพื้นที่ตามกฎหมายป่าไม้

นายสุรพล เผยอีกว่า ที่สำคัญบริเวณใจแผ่นดินเป็นป่าต้นน้ำ ซึ่งแม้แต่คนไทยเองยังไม่มีสิทธิขึ้นไปอยู่อาศัยได้ หากให้คนกลุ่มนี้ขึ้นไปอาศัยอยู่ในพื้นที่มรดกโลก จะส่งผลกระทบ คนกลุ่มนี้มาได้สถานะคนไทยภายหลังมีสิทธิอะไรไปอ้างมาตรา 64 ของ พ.ร.บ.อุทยานฯ ปัญหานี้คนเมืองเพชรบุรีกำลังจับตามอง เพราะกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มนี้ไม่ใช่ชาวกะเหรี่ยง แต่เป็นชาวกะหร่าง พูดกันคนละภาษา แต่คณะทำงานไปเอาปัญหาของทางเหนือแล้วนำมาแก้ปัญหาที่แก่งกระจาน ซึ่งบริบทมันแตกต่างกัน คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด 2 คดี ได้แก่ คดีปู่คออี้ และพวกรวม 6 คน และคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีหน่อแอะ ก็ออกมาชัดเจนว่าเป็นพื้นที่บุกรุกเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

นายสุรพล เผยว่า นายกรัฐมนตรีไปเห็นชอบที่จะให้คนกลุ่มนี้กลับขึ้นไปอาศัยอยู่ได้อย่างไร ใช้กฎหมายข้อไหนใช้ระเบียบข้อไหนอย่างไร หรือจะต้องให้คนเมืองเพชรไปค้างแรมกันข้างทำเนียบรัฐบาล หากพวกท่านลงนามกันแบบนี้เพียงเพราะจะขึ้นไปหาเสียงที่เชียงใหม่ และเชียงราย กับกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเอากรณีนี้ไปใช้ในการหาเสียง กฎหมายไทยในรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันยังไม่เพียงพออีกหรือ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญจะไปใช้อภิสิทธิ์ชนได้อย่างไร แต่วันนี้จะกลับให้คนกลุ่มนี้กลับขึ้นไปอยู่เพียงเพราะปมหาเสียง หาคะแนนเสียง และขัดต่อกฎหมายเองหรือเปล่าและมันสุ่มเสี่ยง เรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องทบทวน หากไม่ยอมทบทวน คนเพชรยอมไม่ได้

ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการย้อนกลับขึ้นไปและมีการบุกแผ้วถางป่า จนถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตามหมายจับ แต่ทุกวันนี้ยังไม่ได้นำตัวส่งฟ้องศาลเลย กว่า 20 ครอบครัว ศาลให้ประกันตัวโดยเอาผู้ใหญ่บ้านมารับรองให้ว่า ในระหว่างที่ประกันตัวไปจะไม่ออกไปก่อเหตุซ้ำอีก ไม่ไปบุกรุกป่า ไม่ล่าสัตว์ แต่ก็ยังมีปรากฏอีกว่ามีการไปกระทำความผิดซ้ำโดยการล่าสัตว์ คดีเหล่านี้คนกลุ่มนี้ได้อภิสิทธิ์อะไร แล้วทำไม่ถึงยังไม่ส่งฟ้อง จนวันนี้ปี พ.ศ.เท่าไหร่แล้ว เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบว่า มีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาให้ความช่วยเหลือหรือไม่ อยากให้นายกรัฐมนตรีไปตรวจสอบด้วย คนไทยที่อยู่ด้านล่างที่บุกรุกแผ่วถางป่า หรือล่าสัตว์ ต้องถูกดำเนินคดีทุกราย แต่คนกลุ่มนี้ทำความผิดซ้ำ แต่ไม่ถูกดำเนินคดี เรื่องนี้มีธงหรือไม่ หรือเพียงเพื่อคะแนนเสียงอย่างเดียว เรื่องนี้กระทบต่อมรดกโลกอย่างแน่นอน

นายหน่อแอะ มีมิ อายุ 61ปี ผู้นำจิตวิญญาณชาวกะเหรี่ยงบางกลอย กล่าวว่า ตนและครอบครัวเคยอาศัยอยู่ที่ใจแผ่นดินที่จังหวัดราชบุรีมาก่อนในสมัยพ่อแม่ เจ้าหน้าที่ได้ต่อสู้กันจึงย้ายออกมาอาศัยอยู่ในที่สงบ หากชาวบ้านเจ็บป่วยตนก็จะอวยพรให้ทุกคนจนอาการดีขึ้น พ่อเล่าให้ฟังว่าคนในรุ่นนี้มีความรู้ไม่ต่อสู้กับพี่น้องเจ้าหน้าที่ หากชาวบ้านขึ้นไปอยู่บางกลอยบน และพบบุคคลกลุ่มอื่นเข้ามาอาศัยอยู่ก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบให้ขับไล่ออกไป ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน 150 คนอยากขึ้นไปอยู่ และชาวบ้านอีกกว่า 700 คนไม่อยากขึ้นไปอยู่ ตนคิดว่าไม่เป็นไร ให้ผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย และให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขึ้นไปอยู่ในแผ่นดินกับชาวบ้านที่อยากขึ้นไป หากมีเรื่องอะไรก็ให้ผู้ช่วยลงมาประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านข้างล่างเหมือนเมื่อครั้งสมัยก่อนพ่อแม่อาศัยอยู่

นายหน่อแอะ กล่าวอีกว่า หากชาวบ้านขึ้นไปอยู่ด้านบนจะไม่ทำลายป่า เพราะปัจจุบันแร่ธาตุในดินมีมากพอใช้แล้ว ถามว่าตนอยากขึ้นไปอยู่ไหม ต้องขอพิจารณาก่อนเพราะขึ้นไปบุกรุกป่าไม่ได้ แต่หากชาวบ้านจะไปอยู่ก็ไม่เป็นไร ส่วนมากเป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ถึงจะลำบากก็ยอม ป่าด้านบนเป็นพื้นที่ที่ปู่ ย่า ตา ยาย อาศัยอยู่มานานแล้ว เขาอดทนอย่างไรเราก็ต้องอดทนอย่างนั้น สมัยก่อนการล่าสัตว์ไม่ได้ล่าในป่า แต่สัตว์เข้ามาในหมู่บ้านเองจึงล่าได้ไม่เป็นไร