กรณี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี แจ้งความกับตำรวจ สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส ว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 3 ขวบ 11 เดือน ซึ่งเดินเล่นอยู่หน้าร้านขายของ พื้นที่หมู่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส หายตัวไปพร้อมกับลูกค้าที่มาซื้อ “กือโป๊ะ” (ข้าวเกรียบสด) ซึ่งลูกค้ารายนี้ให้เงินมา 1,000 บาท ทำให้ นายเอ ไม่มีเงินทอน พอไปแลกเงินมาทอนให้ อีกฝ่ายก็หายตัวไปพร้อมลูกสาว ภายหลังชาวบ้านช่วยกันออกตามหาก็ยังไม่เจอตัว เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ค. กระทั่งมาพบเป็นศพเปลือยท่อนร่างเน่าเปื่อยอยู่ในแอ่งน้ำบริเวณทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์บ้านใหม่ หมู่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ห่างบ้านเพียง 500 เมตร เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

สลดพบร่างหนูน้อย 3 ขวบ สูญหาย 3 วัน ในสระน้ำห่างบ้าน 600 ม. เร่งชันสูตรหาสาเหตุ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.มะตอฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส พร้อมทีมสืบสวน สามารถจับกุมผู้ต้อง 3 คน มีประวัติเสพยาเสพติด โดย 2 ใน 3 เป็นพี่น้องกัน ส่วนอีก 1 คน มีประวัติพ้นโทษออกจากเรือนจำ ประมาณ 1 ปี ในคดียาเสพติด หลังได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยกลุ่มผู้ต้องสงสัยในหมู่บ้าน เป็นรัศมี 2 กม.จากจุดเกิดเหตุ ซึ่งล่าสุดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเป็นเวลา 2 วัน สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ จำนวน 5 คน ซึ่ง 2 คนแรก เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนแต่ไม่พบส่วนเกี่ยวข้อง ได้จัดทำประวัติ และเก็บดีเอ็นเอไว้ก่อนปล่อยตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แยกสอบพร้อมทั้งตรวจสารเสพติด พบว่า 1 ใน 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันผู้ที่เป็นพี่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พร้อมได้ทำการเก็บดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ หากผลคนใดคนหนึ่งมีดีเอ็นเอตรงกับวัตถุพยานที่เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้ ก็สามารถติดตามหรือจับกุมมาดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สงสัยชายผู้พี่ที่เป็นพี่น้องกัน ที่ตรวจพบสารเสพติดอาจจะเป็นคนร้าย เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่างขณะทำการสอบสวน แต่ไม่มีพยานหลักฐานที่จะมัดว่าเป็นผู้ก่อเหตุในขณะนี้ หากใช่หรือรับสารภาพเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยรอผลชันสูตรและผลตรวจ ดีเอ็นเอของน้อง ณาดา ออกในอีก 2 วัน

เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักพ่อของ ด.ญ.บี พบว่าบ้านพักปิดเงียบสอบถามชาวบ้านทราบว่า ตำรวจเชิญทั้งครอบครัว รวมทั้งชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ไปให้ปากคำเพิ่มเติมและเรียบเรียงในวันเกิดเหตุอีกครั้ง รวมทั้งสอบถามบิดามารดาต้องสงสัยบุคคลใดบ้างในหมู่บ้าน เพื่อใช้เป็นแนวทางให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในการแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษต่อไป