เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศาลหมื่นไกรพลขันธ์ หรือ “ตาขุนพล” ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช นายโสภณ พรหมแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลขุนทะเล เป็นประธานในพิธีบวงสรวงขอพรหมื่นไกรพลขันธ์ “ตาขุนพล” ทหารเอกพระเจ้าศรีธรรมโศกราช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชในอดีต โดยหมื่นไกรพลขันธ์ หรือตาขุนพล เป็น 1 ใน 4 แม่ทัพคนสำคัญของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ซึ่งประกอบด้วย หมื่นพันเสร็จ, หมื่นระเห็จดับภัย, หมื่นสนั่นหวั่นไหว และหมื่นไกรพลขันธ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า “พ่อตาขุนพล” ซึ่งตามปกติจะมีการประกอบพิธีปีละ 1 ครั้ง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถประกอบพิธีได้มา 2 ปี ในครั้งในถือว่าเป็นการประกอบพิธีครั้งแรกในรอบ 3 ปี

นายโสภณ กล่าวว่า แต่เดิม “ตาขุนพล” ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลเมืองทางบริเวณทางตะวันออก ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญในการใช้สรรพาวุธ แกล้วกล้าในกลยุทธ์พิชัยสงคราม เป็นหนึ่งในแม่ทัพเอกคู่บารมีพระเจ้าศรีธรรมโศกราชเสมอมา จนกระทั่งพระเจ้าศรีธรรมโศก ได้ทรงอพยพโยกย้ายราษฎรพร้อมด้วยข้าราชบริพารฝ่ายหน้าฝ่ายใน ลงไปสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ที่สันหาดทรายแก้ว โดยมีองค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นศูนย์กลางของสันทราย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเก่า หรือที่ชาวบ้านเรียก “เมืองโบราณ” ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม “ตาขุนพล” ได้ทูลขอพระเจ้าศรีธรรมโศกราชว่า ตัวเองจะขอพำนักอยู่ที่เดิม เพื่อระแวดระวังภัยข้าศึกศัตรูทางทิศตะวันตก โดยมีเพื่อนแม่ทัพ หรือท่านหมื่นอีก 3 คน เป็นแนวร่วมคอยระแวดระวังภัยจากข้าศึกที่อาจจะผ่านมาทางบนหุบเขา ซึ่งแม่ทัพขุนพลทั้ง 4 นาย ได้สร้างวัดขึ้นมาเป็นศูนย์รวมจิตใจ และเพื่อเป็นศูนย์กลางของชุมชนปวงไพร่พลโยธาหาญรักษาบ้านเมือง ซึ่ง “พ่อตาขุนพล” ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และกล้าหาญตลอดมา กระทั่งถึงแก่กรรม ลูกหลานได้เอาศพของท่านฝังไว้ในจุดดังกล่าว และปลูกต้นประดู่ทับไว้บนหลุมฝังศพไว้ และต่อมาได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ของ “ตาขุนพล” ขึ้นใกล้กับต้นประดู่ โดยปัจจุบันต้นประดู่ขนาดยักษ์ ใหญ่นับ 10 คนโอบ ยังปรากฏอยู่เป็นประจักษ์พยานในการมีตัวตนจริง ๆ ของท่าน “พ่อตาขุนพล” 1 ใน 4 ทหารเอกเมืองนครศรีธรรมราช

โดยชาวบ้านทั้งใกล้และไกลจะให้ความเคารพศรัทธา เดินทางมากราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งขอโชคลาภ และเชื่อว่า “ตาขุนพล” มีความศักดิ์สิทธิ์ ในการขอไหว้ได้รับ ผู้ที่มากราบไหว้บูชามักจะได้โชคลาภและมาแก้บนอย่างต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากหมากพลู บุหรี่ และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ แล้ว ชาวบ้านจะนิยมแก้บนด้วยการนำอาวุธดาบจำลองมาถวาย รวมทั้งการแสดงศิลปะการต่อสู้มวยไทย ฟันดาบและการแสดงศิลปินพื้นบ้านโบราณ อาทิ หนังตะลุง-มโนราห์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่พ่อตาขุนพล โปรดปรานเป็นอย่างมาก ซึ่งในอดีตที่ต้นประดู่ยักษ์แห่งนี้จะปรากฏงูองอาง หรือภาษาปักษ์เรียกว่างู “บองหลา” ขนาดใหญ่ นอนขดกายอยู่ข้างต้นประดู่นี้เสมอ แต่ไม่ดุร้าย ไม่ทำร้ายชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่างู “บองหลา” ตัวดังกล่าว คือร่างจำแลงของ “ตาขุนพล “ที่ลงจากภูเขาสูง เพื่อมาปกปักรักษาช่วยเหลือลูกหลาน แม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายร้อยปี แต่ความเชื่อความศรัทธาและเคารพนับถือ “ตาขุนพล” โดยเชื่อว่าพ่อตาขุนพลวีรบุรุษนักรบ ผู้รักษาเมืองนครศรีธรรมราช ยังคงปกปักรักษาลูกหลานชาวลานสกา และใกล้เคียงอยู่อย่างมิเสื่อมคลายตลอดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงการประกอบพิธี มีกลุ่มเมฆเคลื่อนมาบดบังดวงอาทิตย์ จนมืดครึ้มและมีฝนตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย พร้อมเกิดลมพายุพัดรุนแรง จนกิ่งก้าน สาขาของต้นประดู่ยักษ์สั่นไหว แต่น่าแปลกที่ในปะรำพิธีที่ตั้งเครื่องบวงสรวง เซ่นไหว้ กลับไม่ได้รับผลกระทบ แม้แต่ธูปเทียนที่จุดประกอบพิธีก็ไม่ดับแต่อย่างใด และหลังการประกอบพิธี ได้มีชาวบ้านนำประทัดหลายชุดรวมหลายหมื่นนัด มาจุดถวายและขอโชคลาภจากเลขหางประทัด “พ่อตาขุนพล” และน่าแปลก ที่เลขหางประทัดส่วนใหญ่ตัวเลขเหมือนและใกล้เคียงกัน ได้แก่เลข 15-826 นำไปเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่ และแทงหวยใต้ดินงวดวันที่ 1 มิ.ย. 2566 ที่จะถึงนี้อย่างคึกคัก.