เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดกระแสฮือฮาเป็นอย่างมาก ภายหลังจากผู้ใช้ติ๊กต็อก “@suwatraksachit” ซึ่งเจ้าตัวเป็นชายชาว จ.ตรัง ได้โพสต์คลิปวิดีโอโชว์ความสามารถพิเศษของตนเอง ในความแข็งแกร่งที่เป็นคนคอแข็ง สามารถใช้ลำคอห้อยอยู่กับคานไม้บ้าน ก่อนจะทำท่าทางตามอิริยาบถต่างๆ รวมไปถึงโชว์ความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย ที่ต่างหวาดเสียว ทำให้ชาวเน็ตต่างเข้าแสดงความคิดเห็นมากมากมาย รวมไปถึงแนะนำให้คนที่ดู รวมไปถึงเด็กๆ อย่าลอกเลียนแบบโดยเด็ดขาด

ภายหลังผู้สื่อข่าวลงไปที่ยังบ้านเลขที่ 135 หมู่ที่ 4 บ้านไสต้นวา ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อพบกับ นายสุวัฒน์ รักษาจิตร หรือ “พี่แมว” อายุ 44 ปี หนุ่มคอแข็งในคลิปสุดฮือฮาในโลกออนไลน์ ซึ่งพบว่าอาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวรวม 3 คน ส่วนคุณพ่อได้เสียชีวิตลงไปหลายปีแล้ว ซึ่งในวันนี้ มีผู้นำชุมชนและชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ติดตามมาดูความสามารถของ “พี่แมว” เริ่มจากโหนขึ้นไปบนคานไม้ที่สูงจากพื้นดิน 2 เมตร ก่อนจะใช้ลำคอพาดกับคานเพื่อรองรับน้ำหนักตัว พร้อมกันนั้น ได้ใช้มือทั้งสองข้างยกถังพลาสติกที่บรรจุทราย หนักข้างละ 10 กก. และนั่งขัดสมาธิพลิกไปพลิกมา โดยอยู่ในลักษณะเช่นนั้นเป็นระยะเวลาหลายนาที

นอกจากนี้ ยังได้โชว์การใช้เท้าเพียงข้างเดียว เกี่ยวเข้ากับบนคานไม้ของบ้าน และห้อยหัวลงมาบนพื้น ก่อนจะทำการโชว์เดินห้อยหัว โดยใช้มือทั้งสองข้างแทนการใช้เท้าเป็นระยะเวลาอีกกว่า 1 นาที พร้อมทั้งยังได้โชว์การปีนต้นมะพร้าว แต่ไม่ใช่ปีนแบบธรรมดา โดยที่พี่แมวได้ปีนต้นมะพร้าวแบบห้อยหัว และปีนต้นไม้แบบตะแคงข้างอีกด้วย ต่างก็สร้างความฮือฮาและทึ่งกับความสามารถและความแข็งแกร่งของหนุ่มชาวตรังรายนี้เป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวตรวจสอบ แอปพลิเคชัน TikTok ของ “พี่แมว” ก็พบว่า มีการโพสต์คลิปโชว์ความสามารถการเป็นหนุ่มคอแข็งมากกว่า 50 คลิปวิดีโอ ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า ตนพบว่ามีความสามารถพิเศษตอนอายุ 32 ปี ทีแรกเป็นการเดินบนสายสลิง ปั่นรถจักรยานถอยหลัง นั่งบนแฮนด์รถจักรยาน มีผิดพลาดเจ็บตัวกันบ้าง ก่อนที่จะฝึกฝนมาเรื่อย ๆ ในใจคิดเพียงอยากออกกำลังกาย เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะตนเป็นคนซีดผอมมาตั้งแต่กำเนิด ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ หลังจากดูรายการทีวี มีการโชว์ความสามารถ เช่น กายกรรม จึงเก็บเกี่ยวนำมาฝึกฝน แม้ถึงตอนนี้ก็ยังมีเจ็บบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมาย จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่อยากทำตามว่า อย่าเลียนแบบตนเป็นอันขาด ยิ่งเด็ก ๆ ยิ่งไม่ควรทำ แต่หากกรณีอยากจะฝึกฝน ก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลกำกับอย่างปลอดภัย.