เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ บูรณาการร่วมกับหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) ออกปฏิบัติงานตรวจปราบปรามผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และ พ.ศ. 2560 (ฉบับแก้ไข) ปรากฏพบมีเรือประมงใช้เครื่องมือ อวนครอบปลากะตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) กำลังลักลอบทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งบริเวณ เกาะเละละ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล (ห่างจากชายฝั่งเกาะเละละ ประมาณ 969 เมตร) จึงเข้าทำการตรวจสอบและจับกุม ทราบต่อมาว่าเรือประมงอวนครอบปลากะตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วยเรือซิฟาร์ เรือโชคอามีหรน และเรือโชคสมุทร พร้อมลูกเรือรวมจำนวนทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ส่งผลให้ชาวประมงเรืออวนปลากะตักทุกลำที่ทำการประมงในพื้นที่ ไม่กล้าออกทำการประมงต่อไปอีกได้

ล่าสุดมีรายงวานว่า มีการนำเรือมาจอดบริเวณปากเส้นทางเข้าออกร่องน้ำปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางแก้ไขในเรื่องพื้นที่ทำกินการประมง ตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ และพื้นที่ทับซ้อนของเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมอ้างถึงวันที่ได้มาทำข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายอำเภอ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล หัวหน้าอุทยานเกาะตะรุเตา สมาชิกสภาจังหวัด สมาคมประมงจังหวัด และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้มีการลดหย่อนพื้นที่ออกทำการประมงพื้นบ้านที่มีขนาดไม่เกิน 10 ตันกอส จนกว่าจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

อีกทั้งยังได้อ้างถึงเอกสารประกอบกับวันที่ 17 มี.ค. 66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเชิญตัวแทนประมงพื้นบ้าน เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และได้มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับเรื่องความเดือดร้อนจากการประกาศเขตไมล์ทะเลไว้พิจารณา และเร่งรัดการประชุมกับคณะกรรมการประมงจังหวัด ที่ประกอบด้วยประมงจังหวัด และอุทยานว่าจะกำหนดเขตใหม่ทะเลเพียงใด มีร่องน้ำใดที่ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ซึ่งทางอำเภอละงูได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ จึงขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าดังกล่าว และแจ้งให้กรมประมงทราบอีกทางหนึ่งด้วย

ด้านนายวรวิทย์ หมีนหวัง อายุ 38 ปี ตัวแทนประมงปลากะตักผู้ยื่นข้อเรียกร้อง เปิดเผยว่า การนำเรือมาครั้งนี้ เพื่อทวงสิทธิในครั้งนั้น ที่มีการพูดคุย แต่มาวันนี้ยังมีการจับกุมอีก และหากมีการเสียค่าปรับไปแล้วตามที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกล่าวอ้างว่า ไม่รู้การทำข้อตกลงกัน แล้วจะจับกุมอีกหรือไม่ การจอดเรือในครั้งนี้ ไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อนหรือเสียหาย แต่จะจอดอยู่แบบนี้ไปจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่เอาแล้วด้วยวาจา

จากนั้นได้มีการพูดคุยเจรจากับ นายธวัช ช่วยเกตุ ปลัดอาวุโสอำเภอละงู พร้อมรับหนังสือข้อเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และเชื่อว่า จะสามารถพูดคุยกันได้ สถานการณ์น่าจะคลี่คลายในเร็ววัน เพราะที่ผ่านมา กลุ่มประมงดังกล่าวก็พร้อมพร้อมจะปฏิบัติตาม หากว่ามีการชี้แจงพูดคุย เพื่อให้พวกประมงมีพื้นที่ทำกิน

มีรายงานว่า เรือเรือสปีดโบ๊ตโดยสาร 20 ลำ วิ่งจากท่าเทียบเรือปากบารา ตำบลปากน้ำ ไปยัง เกาะตะรุเตา และเกาะหลีเป๊ะ (ต้องวิ่งผ่านร่องน้ำคลองปากบารา) ยังไม่เชื่อมั่นถึงสถานการณ์ว่า การประท้วงจะยืดเยื้อหรือไม่ ต่างได้นำเรือไปจอดลอยลำไว้ที่บริเวณชายหาดปากบารา และที่บริเวณแหลมเต๊ะปันเอาไว้ชั่วคราว เพื่อเตรียมความพร้อม ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ ชาวประมงเรือเล็กเครื่องมือพาณิชย์ (ปลากะตัก) เกิดนำเรือปิดอ่าวบริเวณร่องน้ำปากคลองปากบารา จะได้ไม่เกิดผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่ลงเรือท่าเทียบปากบาราไป เกาะหลีเป๊ะ และเกาะตะรุเตา.