จากกรณีข่าวอุบัติเหตุ ผู้โดยสารล้มบนทางเลื่อนท่าอากาศยานดอนเมือง ส่งผลให้ผู้โดยสารหญิงโดนทางเลื่อนดูด ทำให้หัวเข่าด้านขาซ้ายขาด ทำให้เกิดกระแสติทางท่าอากาศดอนเมือง รวมถึงมีการถามหามาตรการความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ สนามบินดอนเมืองได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับผิดชอบดูแลค่ารักษาและค่าชดเชยต่างๆ อย่างเต็มที่

ซึ่งต่อมา นายกฤตย์ กิตติรัตนา ลูกชายของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทางเลื่อนสนามบินดอนเมืองดูดขา ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก kit kit ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แต่เปิดใจว่า แม่มีสภาพจิตใจย่ำแย่ เห็นข่าวตัวเองร้องไห้ตลอดเวลา เบื้องต้นเท่าที่พูดคุยกับทางท่าอากาศยานดอนเมือง ยินดีที่จะช่วยเหลือทั้งหมด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด นายกฤตย์ ได้ออกมาอัปเดตอาการของคุณแม่ว่า “สวัสดีครับ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 3 เพื่อเรียนให้ทุกๆ ท่านทราบว่า คุณแม่ผมพ้นขีดอันตรายแล้วครับ ขณะนี้ คุณหมอให้ความเห็นเบื้องต้นว่าอาการทางกายภาพของคุณแม่อยู่ในเกณฑ์ดี วันนี้คุณหมอถอดสายอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกจากร่างกายของคุณแม่เกือบทั้งหมดแล้ว ผมเชื่อว่านอกจากความใจสู้ของคุณแม่และปาฏิหาริย์ ก็กำลังใจจากกัลยาณมิตรทุกท่าน ที่เป็นยาวิเศษรักษาให้คุณแม่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ขอบคุณทุกกำลังใจอีกครั้งนะครับ

สภาพจิตใจของคุณแม่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ คุณแม่พูดคุยตอบรับผู้มาเยี่ยมได้อย่างดีและดูผ่อนคลาย แต่ครอบครัวยังสังเกตเห็นว่าคุณแม่ยังมีการผวา และสะดุ้งตื่นในเวลากลางคืนอยู่ นอกจากนี้บางครั้งคุณแม่ทานอาหารไม่หมด ซึ่งคุณหมอมีความเห็นให้เสริมโปรตีนในมื้ออาหารของคุณแม่ เพื่อให้การสมานตัวของแผลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ทางครอบครัวอนุญาตให้คุณแม่ใช้สมาร์ตโฟนเพื่อจะได้ผ่อนคลาย โดยมีการดูและใกล้ชิดตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าคุณแม่เข้าถึงข้อมูลที่เหมาะสม และมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่เลือกที่จะใช้เวลาไปกับการติดตามข่าวเศรษฐกิจ และข่าวหุ้น คุณแม่แอบทำงานผ่านโทรศัพท์บ้างบางเวลา เพราะคุณแม่กังวลในต้นทุนค่าเสียโอกาสระหว่างรับการรักษา รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่คุณแม่อาจจะต้องรับผิดชอบในตอนนี้และในอนาคต ผมและน้อง ๆ ก็ไม่สามารถห้ามท่านได้ตลอด อีกทั้งคุณแม่เป็นผู้หญิงแอคทีฟ

พวกเราปรึกษาคุณหมอแล้วมีความเห็นว่าให้ท่านได้ทำกิจกรรมที่ท่านชอบคงจะดีกว่าให้ท่านอยู่เฉย ๆ ซึ่งอาจจะเสี่ยงให้ท่านเกิดความเศร้าใจ เราพยายามที่จะรักษา Self-esteem ของคุณแม่ให้ได้มากที่สุด และไม่ให้ท่านรู้สึกหมดคุณค่า และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจอีกครั้งครับ พวกเราพี่น้องได้เพียงแค่หมั่นตรวจสอบว่าท่านมีเวลาพักผ่อนที่เหมาะสม ผมและน้อง ๆ ภูมิใจในตัวคุณแม่มาก ๆ ครับ คุณแม่เป็นนักสู้จริง ๆ

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวต้องกล่าวขอขอบคุณการท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานไทยอีกครั้ง ที่แสดงความห่วงใยตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ถึงไม่ตอนนั้นคุณแม่จะยังไม่พร้อมให้เข้าเยี่ยมก็ตาม ในตอนนี้สามารถเข้าเยี่ยมคุณแม่ได้แล้วครับ หวังว่าคุณแม่และพวกเราจะได้มีโอกาสพูดคุยกับทุกท่านมากขึ้นครับ

ขั้นตอนต่อไป ทางครอบครัวจะทำการแต่งตั้งและมอบอำนาจให้ทนายความ ช่วยดูแลในการเข้าแจ้งความกับตำรวจ รวมไปถึงการติดต่อประสานงานให้พนักงานสอบสวนเข้าพบและสอบถามข้อเท็จจริงจากคุณแม่โดยตรง ตามที่ท่านได้เคยติดต่อมา โดยครอบครัวจะโฟกัสกับการดูแลฟื้นฟูคุณแม่อย่างเต็มที่แทน

ผมและครอบครัวทราบดีว่า ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะวางใจเพราะตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นการปรับตัวของคุณแม่ ข่าวดีที่ได้รับในวันนี้ทำให้ครอบครัวเรามีกำลังใจมากขึ้นและเริ่มมีความสุขอีกครั้งหลังจากผ่านเรื่องร้าย ๆ ที่ไม่มีใครคาดคิด ถึงเส้นทางข้างหน้าจะดูหนักหนา แต่ผมเชื่อว่าคุณแม่และพวกเราจะได้รับความเป็นธรรมจากผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้รับความจริงใจจากทุกฝ่ายในการแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดกับใครหรือครอบครัวใดอีก ผมและครอบครัวของผมยังคงต้องสู้ต่อไป ถึงมันจะไม่เหมือนเดิม แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าครอบครัวของผมจะมีความสุขเหมือนเดิมอีกครั้ง”..