จากกรณีชายรายหนึ่งร้องเรียนสื่อ ในประเด็นเข้าร่วมการประมูลสินค้าของกลางที่กรมศุลกากรตรวจยึดมาได้ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 66 ตนเองประมูลนาฬิกา Richard Mille ตัวเรือนสีดำ 1 เรือน ในราคา 2.2 ล้าน ส่วนเพื่อนประมูล Patek Philippe สายสีแดง โดยผู้ประมูลอีกรายก็ประมูล Richard Mille สายแดง 1 เรือน และนาฬิกา search Rolex อีก 1 เรือน เมื่อเดินทางไปรับสินค้า กลับพบความผิดปกติของนาฬิกาที่ได้รับ จึงนำสินค้าเข้าไปตรวจสอบกับทางร้านขายที่สามารถเชื่อถือได้ โดยผู้ตรวจเช็กระบุว่า ตัวเรือนของ Richard Mille สีดำ ออกแบบไม่เนียน ระบบภายในมีการวางซ้อนทับกันอยู่อย่างชัดเจน สามารถยืนยันว่าเป็นเครื่องปลอมแน่นอน ส่วนเพื่อนนำ Patek Philippe สายแดง ไปตรวจสอบด้วยพบว่าเป็นของปลอมอีก ผู้ตรวจบอกว่าระบบภายในมีการวางซ้อนทับกันและพบพิรุธหลายจุด

ต่อมาได้รีบโทรศัพท์ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานในการประมูลสินค้าทันที โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าเขาก็ไม่ทราบว่าสินค้านี้เป็นของจริงหรือของปลอม เขามีหน้าที่เพียงแค่ผู้ประสานงานเท่านั้น แต่จะได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อหัวหน้าผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหนึ่ง นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ก.ค. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับการประมูลนาฬิกาจากกรมศุลกากร ภายหลังพบว่าเป็นนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า ว่า กรมศุลกากรได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว มีข้อเท็จจริงดังนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 65 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้เข้าตรวจค้นร้านขายนาฬิกา บริเวณศูนย์การค้า Siam Square One พบนาฬิกามีเครื่องหมายการค้า จำนวน 14 รายการ ทั้งนี้ ได้เชิญเจ้าของสิทธิมาตรวจสอบ พบว่า มีจำนวน 1 เรือน เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า และอีก 13 เรือน เป็นของที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ดังนั้น กรมศุลกากร จึงนำ 13 เรือน ประกาศขายทอดตลาด ในวันที่ 28 มิ.ย. 66 โดยเปิดให้เข้าชมของกลาง วันที่ 5 ก.ค. 66 และเปิดซองการประมูล วันที่ 6 ก.ค. 66 มีผู้เข้าร่วมการประมูลทั้งสิ้น 18 ราย

หลังจากได้รับข้อมูลจากผู้ประมูลว่า นาฬิกาที่มีการประมูลจากกรมศุลกากร เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า กรมศุลกากรจึงได้ดำเนินการตรวจสอบทันที ซึ่งในวันนี้ ได้เชิญเจ้าของสิทธิมาหารืออีกครั้ง เจ้าของสิทธิแจ้งว่า นาฬิกาทั้งหมดที่ได้ประมูล วันที่ 6 ก.ค. 66 เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า

กรมศุลกากรจึงออกคำสั่งยกเลิกการประมูล และให้คืนเงินให้กับผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด โดยในส่วนของกรมศุลกากร จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนต่อไป

ทั้งนี้ กรมศุลกากรจึงขออภัยสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการอย่างรอบคอบ ในการประมูลสินค้าครั้งต่อไป.