เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ร.ต.อ.ภราดร เพ็งคต รองสว.สอบสวน สภ.บางบ่อ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้ม ริมถนนรัตนราช เยื้องธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบางบ่อ ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลบางบ่อ และเทศบาลใกล้เคียง ที่เกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องแถวชั้นเดียวเป็นร้านแก๊ส และลุกลามไปติดห้องข้างๆ ที่เป็นร้านตัดผม ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านจำหน่ายทุเรียน รวมถึง ลุกลามติดชั้นล่างของหอพักที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงระเบิดจากถังแก๊สเป็นระยะ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยหน่วยบรรเทาสาธาณภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ต้องระดมกำลังเข้าระงับเหตุและอพยพคนในหอพักดังกล่าว โดยทำการปิดการจราจรเด็ดขาดบนถนนสายรัตนราช ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้ม พบว่ามีถังแก๊สกว่า 50 ถัง อยู่ในร้าน นักดับเพลิงเข้าไปลำเลียงถังแก๊สทั้งหมดออกมาด้านนอกและใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยง เนื่องจากมีแก๊สรั่วไหลฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ พร้อมทั้งกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย

ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นชายอายุ 36 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้ม ซึ่งถูกไฟไหม้ที่แขนและใบหน้า กู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ส่วนอีกสองรายเป็นแม่ค้าและผู้พักอาศัย มีการสำลักควัน ล่าสุดทั้ง 3 คน อาการปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้อย่างสงบ

เจ้าของร้านทุเรียนที่ถูกไฟไหม้ กล่าวว่า ได้ยินคนตะโกนว่าแก๊สระเบิดไฟไหม้ ได้ยินเสียงฟู่มองเห็นไฟ ตนเลยไปเรียกพี่สาวที่อยู่ด้านใน ลูกค้ากำลังรอซื้อทุเรียนสแกนจ่ายเงินแล้ว แต่เอาไปไม่ทัน ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถเอาอะไรออกมาได้เลย เมื่อวานลงทุนซื้อทุเรียนมา 200,000 บาท เสียหายทั้งหมด

พ.ต.อ.ศุภกร บูรณะภักดีตระกูล ผกก.สภ.บางบ่อ กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นเจ้าของร้านแก๊สก็รับว่า ก่อนเกิดเหตุได้ทำอาหารอยู่ ขณะทำได้ล้มลง และพยายามจะดับไฟด้วยถังดับเพลิงของตัวเองแต่ไม่ทัน เพลิงได้ลุกไหม้ไปอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบพบว่า ร้านค้าที่เป็นชั้นเดียวปลูกติดกันหลายร้าน ถูกเพลิงไหม้เสียหายวอดไป 6 หลัง นอกจากนั้นเพลิงยังลุกลามเข้าหอพักเสียหายค่อนข้างมาก ส่วนรถยนต์ที่จอดหลังร้านต้นเพลิงพบว่า ไฟไหม้เสียหายวอดไป 1คัน และรถจักรยานยนต์อีก 4 คัน ตอนนี้อยู่ระหว่างรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุและจะดำเนินคดีต่อไป