เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังทราบข่าวว่า มีสาวใหญ่ใจบุญเลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนมากมานานกว่า 40 ปี โดยขายบ้าน 3 ล้านบาท มาเป็นทุนเพื่อรักษาตัวเองและเลี้ยงสุนัขและแมว โดยได้พบกับ นางกรวรรณ วรรณนิยม หรือ ป้าเปี๊ยก อายุ 64 ปี และ น.ส.จอย อายุ 27 ปี ลูกสาว พร้อมกับสุนัข 40 ตัว แมว 20 ตัว อยู่ภายในบ้าน

ป้าเปี๊ยก เล่าว่า ตนเป็นคนรักสัตว์ พอเห็นหมาแมวจรจัดก็เก็บมาเลี้ยงเอาไว้ มีทั้งพิการและไม่พิการ บางตัวเก็บเอามาก็ไม่สบาย และทุกตัวที่ตนเลี้ยง จะต้องจับทำหมันหมด เพราะเกรงจะมีลูกหลานออกมาอีก บางคนเลี้ยงไม่ไหวก็เอามาให้ตนเลี้ยง ทุกวันช่วง 13.00 น. ตนจะคลุกข้าวไปให้หมาจรตามจุดต่างๆ อีกหลายที่ เพราะตนสงสาร คนหาซื้อกินข้าวได้ แต่หมาเขาพูดไม่ได้ เวลาหิวไปกินอะไรของคนอื่นเขาก็ตีเอา ตนเห็นแล้วสงสาร บางครั้งก็คลุกข้าวไปให้ลิงที่ต่างจังหวัดก็มี คิดว่าทำบุญ ซึ่งทุกวันนี้ตนต้องไปจ่ายตลาดทุกวันในช่วงเช้า เพื่อซื้อไก่บดเอามาต้มคลุกข้าวให้หมาแมวกิน ข้าวในแต่ละวันจะหุง 2 หม้อใหญ่ๆ หมดทุกวัน

บางครั้งตามวัด เจ้าหน้าที่เขาก็เก็บข้าวเอาไว้ให้ เพราะรู้ว่าตนทำบุญกับหมาแมว ซึ่งเวลาที่ตนเอาข้าวไปให้หมาจร ตนก็ให้ลูกสาวของตนเอากะละมังข้าวใส่เอาไว้ที่ท้ายรถเก๋ง ตนจะเป็นคนขับรถ ส่วนลูกสาวจะเป็นคนลงไปให้ข้าวหมาในแต่ละจุด ซึ่งพอถึงแต่ละจุด ตนก็จะบีบแตรรถ แล้วหมาก็จะวิ่งมากินข้าวจะเป็นแบบนี้ทุกวัน หมาเขาจำเสียงแตรรถของตนได้ ตนให้ข้าวทุกวันวันละ 1 ครั้ง ไม่มีวันหยุด ซึ่งตนคิดว่าเขาก็หิวเหมือนกันกับคน ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนตกเดือนละ 60,000-70,000 บาท บางคนใจบุญก็ซื้อข้าวสารให้มาบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย เพราะค่าใช้จ่ายสูงมากในแต่ละเดือน ป้าเปี๊ยก เล่าว่า หลายปีที่ผ่านมา ตนขายบ้านไป 1 หลัง เป็นเงิน 3 ล้านบาท และส่งน้ำแข็ง เปิดร้านขายของชำที่หน้าบ้านก็พอมีเงินบ้าง ก็เอาเงินจำนวนนี้มาใช้จ่าย ซึ่งทุกวันนี้ตนไม่ได้ส่งน้ำแข็งแล้ว เพราะอายุเยอะ ยกไม่ไหวมันหนัก ที่ผ่านมาตนก็เข้า รพ. เพื่อรับการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง เงินก็เหลือน้อยลงเพราะต้องใช้จ่ายซื้อของทุกวัน หรือถ้าใครอยากจะทำบุญ ก็ซื้อข้าวและกับข้าวของน้องหมาน้องแมวมาให้ตนก็ได้ ตนก็จะได้นำไปให้น้องหมาน้องแมวกิน ถือว่าทำบุญร่วมกัน เพราะตนเห็นแล้วก็น่าสงสาร เวลาที่หมาแมวโดนตีและไม่มีอาหารกินจนผอมโซ.