กรณี ด.ญ.วัย 14 ปี ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ถูกครู ป. (นามสมมุติ) ซึ่งสอนอยู่ที่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ยืมเงิน 20,000 บาท อ้าง 2 เดือน ให้คืน แต่เวลาผ่านไปกว่า 6 เดือน จ่ายคืนมาเพียง 5,000 บาท กระทั่งชาวเน็ตต่างให้ความสนใจ เพราะเป็นเงินเก็บที่เด็กได้จากการรับจ้างซักผ้า รีดผ้า และขายของตามตลาดนัด เพื่อหวังจะเอาไปผ่าตัดขาที่พิการ (เดินเขย่ง) สุดท้าย ครูเอาเงินที่เหลือมาคืนให้ 15,000 บาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องราวดังกล่าว เหมือนจะจบแต่ไม่จบ เพราะหลังชาวบ้านทราบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 4 ได้เรียกแม่น้องกับตัวน้อง ไปรับเงินจากครู ป. พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาว่า “เก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด” และทำการสอบสวนถึงที่มาของเงินเด็กว่าเอามาจากไหน เหมือนเป็นการสอบอย่างพนักงานสอบสวน จนครูที่สอนโรงเรียนเดียวกันกับครู ป. ออกมาแฉอีกว่า ถูกยืมเงินไป 50,000 แล้วไม่คืนให้ ทั้งยังไม่จ่ายค่าเช่าบ้านที่เช่าไว้เดือนละ 2,000 บาท นานกว่า 24 เดือน

ล่าสุดได้มีครูปลาย (นามสมมุติ) เพื่อนครู ป. ปัจจุบันเป็นครูสอนอยู่ที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ชลบุรี ได้ออกมาร้องต่อสื่ออีก 1 ราย โดยครูปลาย เล่าว่า อยู่ห้องเรียนเดียวกันกับครู ป. นานกว่า 5 ปี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา รู้จักนิสัยกันดี เป็นคนตรงไปตรงมา หลังจากเรียนจบ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ครู ป. สอบติด ได้ไปสอนอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนตนสอบติด ได้ไปสอนที่โรงเรียนที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ชลบุรี ติดต่อคุยกันมาโดยตลอด เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ครู ป. โทรฯ มาขอยืมเงินด่วน บอกว่าแม่จะไปเมืองนอกใช้เงินเดินทาง จึงโอนไปให้ 20,000 บาท หลังจากนั้นครู ป. ให้เหตุผลความจำเป็นต่างๆ ยืมเงินครั้งละ 10,000-20,000 บาท รวมระยะเวลาตั้งแต่เดือน มี.ค. 65-พ.ค. 65 เป็นเงิน 90,000 บาท

หลังจากนั้นตนได้เริ่มทวงถามเงินที่ยืมไป ปรากฏว่าถูกบ่ายเบี่ยง แต่ได้เงินคืนกลับมา 20,000 บาท สุดท้ายติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อปลายปี 65 มาทราบจากเพื่อนครูแต่ละคนว่า โดนยืมกันถ้วนหน้า รายละ 30,000-100,000 บาท บางคนไปถามถึงบ้าน ได้คืนมาบ้าง จากนั้นมีเพื่อนส่งข่าวมาให้ดู รู้ทันทีว่าเป็นครู ป. ส่วนสาเหตุ เพื่อนๆ ได้วิเคราะห์กันว่า น่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เพราะลำพังเงินเดือนครู ถ้าใช้จ่ายอย่างถูกวิธี จะมีเงินเหลือเก็บอยู่แล้ว

ครูปลาย เล่าด้วยว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดชัยภูมิ และไปสอนไกลถึง จ.ชลบุรี ไม่มีปัญญาจะไปตามทวงหนี้ได้ ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อน พ่อป่วยต้องใช้เงินเดินทางไปรักษาในตัวจังหวัดชัยภูมิเป็นประจำ จึงอยากจะฝากถึงเพื่อน การออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายจะโจมตี หรือให้ร้ายแต่อย่างใด แต่อยากได้เงินคืน เพราะตนเองก็เดือดร้อน เริ่มกู้เงินคนอื่นมาใช้แล้ว