จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์” ได้โพสต์ข้อความและภาพวงจรปิด เล่าว่า เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดัง เข้าไปเตือน ถูกชายคนดังกล่าวถือเหล็กแป๊บตีเข้ากระจกรถ เหตุเกิดเมื่อตอนตี 1 ที่ผ่านมา 6 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านเอื้ออาทร 2 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบรถฮอนด้าซิตี้ สีเทา งฉ 2088 นครราชสีมา กระจกรถด้านหน้าถูกของแข็งทุบ พบเจ้าของรถ คือ น.ส.รัชนิดาพร น้อยเภา อายุ 40 ปี รวมไปถึงเพื่อนบ้านกำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ที่เพื่อนบ้านถือท่อเหล็กความยาว 1 เมตร ตีเข้าที่กระจกรถจนได้รับความเสียหาย

ในส่วนของบ้านผู้ก่อเหตุ ไม่พบชายดังกล่าวอยู่ในบ้าน พบแต่แม่และภรรยาอยู่ อ้างว่าไม่รู้ลูกชายไปที่ใดและไม่ขอให้ข่าว ต่อมาพบว่าผู้เสียหาย ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว ที่ได้มีการทุบรถจนได้รับความเสียหาย และอยากจะให้จับตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

น.ส.รัชนิดาพร เจ้าของรถ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ากระจกรถมีร่องรอยการถูกทุบ จึงไปขอกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้านข้างเคียง พบมีชายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่เช่าบ้านอยู่ ได้ถือท่อเหล็กความยาวประมาณ 1 เมตร ตีเข้ากระจกรถด้านหน้า 1 ครั้ง ก่อนจะเดินเข้ากลับบ้านไปอย่างใจเย็น ซึ่งสาเหตุของการทุบกระจกรถในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวมีการแต่งเครื่องเสียงรถเก๋ง และเปิดเพลงเสียงดังอยู่เป็นประจำ พร้อมทั้งท่อเสียงดัง จึงได้มีการเข้าไปตักเตือน แต่ก็ไม่มีการฟัง พร้อมมีการด่าทอกลับ แต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าชายคนดังกล่าวจะมาก่อเหตุตีกระจกรถจนได้รับความเสียหาย ซึ่งทำให้คนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกเล็ก 3 คน และแม่ชรา อยู่ในภาวะอาการตกใจเป็นอย่างมาก กลัวความไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านเพื่อนบ้านวัย 60 ปี รายหนึ่ง เล่าว่า ชายคนดังกล่าวชอบเปิดเครื่องเสียงจากรถยนต์เสียงดังอยู่เป็นประจำ จนเป็นที่เอือมระอาของเพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าว บอกกี่ครั้งก็ไม่เคยจะเชื่อฟัง โดยก่อนหน้านี้ เคยเตือนชายคนดังกล่าวว่า อย่าไปเบิ้ลรถเสียงดัง พร้อมทั้งเปิดเครื่องเสียงเสียงดัง แต่ทางนั้นสวนกลับมาว่า ผมกินเหล้ามากับเพื่อนและอยากจะกวนเท้าคน ยายเลยพูดกลับไปว่าระวังลูกจะโดนส้นเท้ากลับมานะลูก แต่บอกไปแล้วก็เหมือนเดิม หายไปสัก 1-2 วัน ก็กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก จึงอยากให้เด็กคนนี้ย้ายออกไปจากหมู่บ้านสักที เพราะสร้างความรำคาญให้อย่างมาก.