เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ต่างเกิดกระแสพูดถึงกันเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่อฟนเพจที่มักเผยแพร่ข่าวสารต่างประเทศอย่าง “World Forum ข่าวสารต่างประเทศ” ได้เผยเรื่องราวของชายหนุ่มชาวมาเลเซีย ได้เขียนรีวิวความประทับใจภายหลังจากที่ได้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย

โดยทางเพจได้แปลการรีวิวดังกล่าว เป็นภาษาไทยเอาไว้ว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยว” อาหารในเมืองไทยมีราคาถูก ถ้ามา 10 คน บิลจะไม่ถึง 2300 บ. แม้ว่าอาหารจะเต็มโต๊ะก็ตาม ถ้าคุณอยากกิน 1 คน ปกติ 80 บาท ข้าวผัดปลาหมึกสดและกุ้งสดเพียง 60 บาท กุ้งขนาดต้นขาของฉันราคาเพียง 380 บาท/ตัว ในประเทศไทยอาหารอร่อยทุกอย่าง รับรองว่าอาหารและเครื่องดื่มอร่อย ลองนึกภาพน้ำชาเย็นที่เซเว่นอีเลฟเว่นอร่อยมาก นั่นยังไม่ได้เข้าสู่หมวดเบอร์เกอร์ทันทีที่ 7-11 อาหารในการแชร์ ของคุณไม่ต้องถาม ว่ามันอร่อย มันแตกต่าง และคุณจะไม่พบมันในมาเลเซีย อาหารทะเลสดมาก ปลาหมึกตัวใหญ่ กุ้งตัวใหญ่

ประเทศไทยมีความสะอาด ถังขยะหาได้ยากในประเทศไทย ถ้าเรากินของเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องเก็บพลาสติกไว้ในกระเป๋าแล้วโยนทิ้งที่ห้องพักในโรงแรม คุณจะไม่พบขยะตามทางเท้า ราคาโรงแรมในประเทศไทยมีราคาถูก ราคาตั้งแต่ 450 – 1150 บาท พร้อมสำหรับมื้อเช้าแล้วนะรู้ยัง สระว่ายน้ำเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าราคาตั้งแต่ 1500 บ. ขึ้นไป ก็เหมือนโรงแรม 5 ดาวโฮมสเตย์ในประเทศไทยมักจะมีราคาต่ำกว่า 1150 บ. สำหรับบ้าน ถนนเมืองไทยสวยมาก ยากที่จะหาถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อหรือชำรุด
ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ก็ไม่มีปัญหาถ้าคุณต้องการความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ก็บิดได้ 5 ชั่วโมงเต็ม ไม่มีเสียงแตร

ปั๊มน้ำมัน ในประเทศไทยยิ่งใหญ่มาก มักจะมีปั๊มน้ำมัน เซเว่นอีเลฟเว่น สุขา และแม้กระทั่งอาบห้องน้ำ 7 eleven มันใหญ่มากไม่เหมือนกับที่มาเลเซีย อาหารข้างในก็อร่อยทุกอย่าง ฉันไม่แน่ใจว่ามีอะไรฮาลาล และ ฮารอม เครื่องสำอางที่ 7 eleven ก็มีให้เลือกมากมาย คุณอาจจะคลั่งได้ไหมเมื่อเข้า 7 -11 ? อาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดให้ลอง พร้อมช้อปเครื่องสำอางกันอีกแล้ว

ห้องน้ำในประเทศไทยมีความสะอาด ฉันไม่เคยเห็นห้องน้ำมีกลิ่นเหม็นหรืออุจจาระที่ไม่สามารถกดชักโครกได้ ไม่เคยเจอก้นบุหรี่เลย สะอาด และห้องน้ำมีเอกลักษณ์และหายากในมาเลเซีย เหมือนมีต้นไม้ มีต้นไผ่อยู่ในโถส้วม อากาศบริสุทธิ์สุดยอดในห้องน้ำ หากรับประทานอาหารที่ร้านอาหารในประเทศไทยจะไม่พบคนสูบบุหรี่ในร้าน ถ้ามีก็เป็นคนมาเลเซีย อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย 5G ฉันขับรถมา 5 ชั่วโมงไม่มีล่มแม้แต่จุดเดียว สัญญาณเต็มรูปแบบ มันถูก ประมาณ 190 บ. ถ้าจำไม่ผิด

คนไทยเป็นคนดี ทุกคนที่ฉันพบก็เป็นมิตร ผู้ช่วยร้านคือที่สุดพร้อมโค้งคำนับพูดเบาๆ เพียงแต่สื่อสารยากนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยใช้ภาษาอื่นนอกจากภาษาไทย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพียงติดตั้งแอป Google แปลภาษาคุณไม่จำเป็นต้องพิมพ์ เพียงแค่กดเสียง จากนั้นแอปก็จะแปลเป็นภาษาไทยโดยอัตโนมัติ

ในประเทศไทย คุณจะไม่พบท่อไอเสียหรือท่อไอเสียที่มีเสียงดัง หารถบรรทุกที่มีท่อไอเสียใหญ่ไม่ได้ ที่นั่นมีรถ 4×4 มากมาย สิ่งกีดขวางบนถนนไม่เหมือนในมาเลเซีย ไม่ต้องกังวลหากคุณไม่สวมหมวกกันน็อค เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่มีกระจกมองข้างหรือป้ายทะเบียนเก๋ๆ นั่นเป็นสาเหตุที่แก๊งมอเตอร์ไซค์จำนวนมากไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศไทย ขี่และบิดโดยไม่ลังเล ที่นั่นคุณไม่เห็นขอทานบนถนนหรือตามสัญญาณไฟจราจร ไม่รู้ว่ากลุ่มนี้อยู่หรือเปล่า เพราะไม่เคยเห็นเลยแม้แต่ในตัวเมือง

ตำรวจมีอยู่ทุกที่ พื้นที่เน้นนักท่องเที่ยวย่อมมีตำรวจประจำการอยู่จำนวนมาก รู้สึกปลอดภัยที่จะเดินหรือช็อปปิ้ง อีกมากมายถ้าคุณต้องการเขียน ถ้าอยากไปเที่ยวพักผ่อนก็ลองมาเที่ยวเมืองไทยดูสิเข้าไปได้ไม่ยากเลย ถ้าไป 3 วัน 2 คืน กับครอบครัว 5 คน เสียเงินค่าอาหาร ที่พัก ไม่เกิน 7,600 บ. และยังได้เดินไปยังสถานที่ที่น่าสนใจอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวตั๋วทั้งหมดมีราคาถูก ต่ำกว่า 75 บ. เท่านั้น

“คนจำได้ว่าเข้าเมืองไทยยาก ไม่ยากถ้ารู้วิธี มาเมืองไทยแล้วรับรองไม่มองหาที่เที่ยวที่อื่นในมาเลเซีย อาหารอร่อย ทุกอย่างมีราคาถูก สถานที่ที่น่าสนใจ ผู้คนนิสัยดี คุณต้องการอะไรอีก? ประเทศไทยมีกฎหมายบางประการที่ไม่เหมือนกับในประเทศมาเลเซีย เราต้องเชื่อฟังและเคารพ” ฉันจะแบ่งปันในโพสต์ถัดไป ปล: นี่คือประสบการณ์ของฉัน ถ้าประสบการณ์เราไม่เหมือนกันอย่าหาว่าผมโกหกเพราะวันและเวลาที่เราไปอาจจะไม่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเข้ามากดไลค์และแชร์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในการรีวิวนี้ชาวไทยต่างเข้ามาคอมเมนต์ ขอบคุณที่ชื่นชอบประเทศไทย คนไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ แต่ในบางเรื่องที่นักท่องเที่ยวชื่นชมมาก ก็ออกจะเขินอยู่มิใช่น้อย ส่วนบางเรื่องก็ไม่ควรทำ เช่นกันขับรถเกิน 200 กม./ชม. หรือขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหวกกันน็อกอีกด้วย..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @World Forum ข่าวสารต่างประเทศ