เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาประชมคมหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ชาวบ้าน 509 คน พร้อมฝ่ายปกครองท้องถิ่น ฝ่ายงานเกี่ยวข้อง และตำรวจ สภ.ประเหลียน ร่วมกันประชุมหารือ กรณีการตรวจสอบเงินของธนาคารหมู่บ้านสูญหายไปกว่า 6 ล้านบาท โดยมีคณะกรรมการธนาคารของหมู่บ้านบางราย ร่วมตอบข้อซักถามด้วย
โดยที่ประชุมมีการเปิดเผยถึง การบริหารงานโดยคณะกรรมการหมู่บ้านชุดเก่า 6 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านในพื้นที่เลือกมาเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ ขณะที่เงินในธนาคารมีทั้งหมด 14,797,740 บาท แบ่งเป็นเงินหนี้ค้างชำระของสมาชิกจำนวน 8 ล้านกว่าบาท แถมยังมีเงินสูญหายไปอีก 6,776,521 บาท
และเมื่อมีการตรวจสอบเชิงลึกก็พบว่า ตั้งแต่มีการดำเนินกิจการมา ธนาคารหมู่บ้านกลับขาดทุนทุกปี ปีละหลายแสนบาท เช่นปี 2561 ขาดทุนไปถึง 5.6 แสนบาท รวมระยะเวลา 6 ปี ขาดทุนไปถึง 4 ล้านกว่าบาท ปัญหาหลักที่เงินสูญหายเป็นเพราะมีการปล่อยเงินกู้เกินกว่าที่กำหนด และส่วนใหญ่ผู้กู้จะเป็นคนในเครือญาติกับคณะกรรมการ อีกทั้งยังพบด้วยว่าการปล่อยกู้มีความไม่ชอบมาพากล ตั้งแต่ปล่อยกู้ให้เด็กอายุ 2-3 ขวบ ทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้ แต่กลับขอกู้วงเงินแสนบาท ทั้งที่เงินฝากของเด็กในบัญชีธนาคารมีเงินอยู่เพียง 2,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่า มีการอนุมัติให้สมาชิกธนาคารที่เสียชีวิตไปแล้วกู้ยืมเงินอีก 1 แสนบาท ซึ่งอาจมองว่าเป็นการสวมสิทธิและใช้เอกสารปลอม เพราะเมื่อสมาชิกเสียชีวิตแล้วต้องพ้นสภาพ ขณะที่หลายรายกู้ไปแล้วนับแสนนับล้าน แล้วไม่ชำระหนี้เลยสักบาท แต่ก็ยังปล่อยให้กลับมากู้ได้อีก ส่งผลทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง จนเงินฝากและเงินปันผลของสมาชิกสูญหาย บางรายมีฝากตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท จะไปขอถอนเงินออกจากบัญชี แต่กลับไม่สามารถถอนได้ เนื่องจากเงินของสมาชิกได้สูญหายไปเกลี้ยงบัญชีแล้ว ส่วนใหญ่การฝากเงินของชาวบ้านที่เป็นสมาชิก ก็เพื่อไว้ใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิต ชาวบ้านจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
โดยวันนี้ (16 ก.ย. 66) มีการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ 5 ท่าน เพื่อให้เข้ามาแทนกรรมการชุดเก่า พร้อมเร่งรัดให้คณะกรรมการชุดเก่าที่มีปัญหามารับสภาพหนี้ และให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามกฎหมาย เพื่อจะได้นำเงินมาคืนให้แก่สมาชิกต่อไป การประชุมครั้งนี้ มีการแต่งตั้งทนายความเข้ามาช่วยเหลือด้วย ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการตามข้อตกลง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ทำให้กลุ่มชาวบ้านทั้งหมดพอใจ เพราะคิดว่าจะได้เงินคืนกลับมา.
