เมื่อวันที่ 1 ต.ค. น้ำป่าจากเทือกเขาพังเหยไหลลงสู่เขื่อนลำกระจวนและได้มีการเร่งระบายน้ำสู่ลำห้วยลำกระจวนไปสมทบกับลำห้วยลำเชียงทาไหลลงไปบรรจบกันที่ลำชี ขณะที่น้ำจากเทือกเขาภูแลนคาก็ได้ไหลลงสู่ลำห้วยชีลองลงมาบรรจบกันที่ลำชีทำให้มวลแม่น้ำชีมีปริมาณที่มากและได้เอ่อล้นตะลิ่งทะลักเข้าท่วมถนนในหมู่บ้านและถนนการเกษตร ไร่นา พืชผลทางการเกษตร รวมทั้งวัดได้รับความเสียหายแล้วหลายพื้นที่

สถานการณ์น้ำในจังหวัดชัยภูมิ หลังที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องหลายวัน ถึงแม้ว่าขณะนี้ไม่มีฝนตกในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ้านเขว้า แต่ปริมาณน้ำในลำน้ำชียังคงเอ่อล้นทะลักออกนอกฝั่งไหลเข้าท่วมไร่นาของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปริมาณน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะบริเวณวัดสุวรรณวนาราม บ้านคลองไผ่งาม ตำบลบ้านเขว้า อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ และถนนภายในหมู่บ้านมีระดับน้ำสูงประมาณ70-80 เซนติเมตร ส่วนภายในบริเวณวัดสุวรรณวนารามซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมตั้งแต่เมื่อวาน ชาวบ้านต้องเข้ามาช่วยกันยกโลงศพ ขึ้นไว้ที่สูงรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่ภายในวัดด้วย

ด้านคุณยายศรี โกเคน อายุ 86 ปี ชาวบ้านคลองไผ่งาม ตำบลบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เล่าว่า คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อวาน เพราะน้ำพึ่งไหลเข้ามาที่วัด ซึ่งปกติน้ำจะท่วมทุกปี โดยในแต่ละปีจะท่วมนานไม่น้อยกว่า 6-7 วัน ตนมาทำบุญที่วัดนี้ตั้งแต่เด็กๆ จึงสามารถประเมินสถานการณ์น้ำได้ดีพอสมควร ตั้งแต่ตั้งวัดนี้มาเคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้ง คือเมื่อปี 2554 และปี 2564 ซึ่งในรอบ 10 ปี จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งหนึ่ง และท่วมแต่ละครั้งจะกินเวลานานกว่า 15 วันถึง 1 เดือน ส่วนในวันนี้นอกจากตนจะมาทำบุญแล้ว ยังได้ชักชวนเพื่อนบ้านมาช่วยกันเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำช่วยหลวงพ่อ พร้อมช่วยยกข้าวของขึ้นที่สูงหนีน้ำเป็นการป้องกันไว้ก่อนเบี้องต้น