เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่อาคารศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และตำรวจอีก 8 นาย ที่ถูกดำเนินคดีฐานพัวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบางช่วงบางตอน เมื่อถามว่า คนที่ติดต่อทนายอนันต์ชัยมา คือ ตำรวจหรือไม่ เพื่อขอให้เบรกการทำคดีนั้น ทนายอนันต์ชัย ตอบว่า “เป็นผู้ใหญ่” เป็นคนในวงการนี้แหละ แต่เป็นคนละคนกับที่ติดต่อไปทางบิ๊กโจ๊ก อย่างไรก็ตาม บุคคลรายดังกล่าวที่ติดต่อตนมาทางโทรศัพท์ ไม่ได้มีการยื่นข้อเสนอใดๆ แต่เหมือนเขาตบหัวและลูบหลัง ส่วนถ้าจะให้ตนถอยในเรื่องนี้นั้น ถ้าจะให้ถอย ต้องถอนทนายอนันต์ชัยออก

ทนายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า เพราะว่าการทำงานของตน ตนทำงานเพื่อความถูกต้อง อยากเอาความจริงมาเปิดเผย อยากหยิบเอาข้อเท็จจริงให้สาธารณชนให้รับรู้ และตนอยากจะบอกว่าพวกที่วิจารณ์ว่าตนจะชนะคดีแน่ คุณเข้าใจผิด เพราะการทำคดีของตน จะแพ้หรือชนะอยู่ที่พยานหลักฐานและข้อเท็จจริง คดีนี้อาจจะแพ้ก็ได้ เพราะตนไม่ใช่ทนายเทวดา ถ้ามีพยานหลักฐานแน่นหนา ตนอาจจะแพ้ก็ได้ แต่อาจจะไม่แพ้ทุกคน อาจชนะบางคน แพ้บางคน และตนไม่เคยพูดว่าคดีนี้จะต้องชนะ แล้วก็มาหาว่าตนขี้โม้ ตนมาทำคดีนี้เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ไม่เคยพูดสักคำว่าคดีนี้ชนะแน่ ดังนั้นอย่ามโน

เมื่อผู้สื่อถามต่อว่า นายตำรวจที่โทรฯ มาหา ได้มีการพูดคุยหรือข่มขู่อะไรหรือไม่ นายอนันต์ชัย กล่าวว่า เขาไม่ได้ข่มขู่ แต่เขาก็บอกว่า “น้องระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน“ เท่านั้นเอง ซึ่งคุยกันไม่นาน โดยตอนนี้ตนก็ไม่ได้รับสายเขาแล้ว พร้อมยืนยันว่า บุคคลดังกล่าว ไม่ใช่ตำรวจ แต่อาจจะเป็นอีกคน ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นสายเดียวกับคนที่บอก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และบุคคลดังกล่าว ไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจ แต่อยู่ในแวดวงนี้ เป็นเอกชนธรรมดาที่รู้จักกัน และไม่ใช่นักการเมือง

‘ทนายอนันต์ชัย’ แฉมีใบสั่งให้เบรกทำคดี ลั่นขอเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

สำหรับการเดินหน้าทำคดีนี้ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ยังเดินหน้าต่อไป รวมถึงบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ในวันที่ 5 ต.ค. นี้อีกด้วย พร้อมย้ำว่า “ตราบใดที่บิ๊กโจ๊กไม่ถอนพี่ พี่ก็เป็น“ เพราะกลยุทธ์ในการรบภายในศาลนั้นอยู่ที่ตน ไม่ได้อยู่ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือนายตำรวจทั้ง 8 นาย การสู้ในศาล หรือการให้การในชั้นสอบสวนมันอยู่เรา ในการให้คำแนะนำข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เพลี่ยงพล้ำ

ส่วนเรื่องบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า มีอย่างแน่นอน ตอนนี้เอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอให้รอดูในวันที่ 5 ต.ค. นี้ แต่ถ้าก่อนวันที่ 5 ต.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถอน ตนเองก็ถือว่ายุติ ทุกอย่างก็จบ แต่ล่าสุดที่คุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ถอนอย่างแน่นอน ซึ่งตนเองตรงไปตรงมา ใครจะถอนตนเองไม่สนใจ ไม่แคร์ เพราะตนเองไม่ใช่ทนายที่หิวแสง ที่จะต้องกระสันมาทำคดีให้เขา พอตัวเองไม่ได้รับการพิจารณา ก็มาโจมตีคนนั้นคนนี้ ตนไม่ใช่ทนายแบบนั้น และตนรู้ว่ามีทนายหลายคนอิจฉาตาร้อนตน ตนรู้แต่อย่าพูดเลยว่าเป็นใคร

ส่วนการพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็สบายดี ตนได้บอกกับท่านว่า อยากให้ท่านไม่พูด เพราะคำพูดของเรา มันจะกระทบต่อบุคคลอื่น แต่ไม่ใช่ว่าตนจะมีอำนาจเหนือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่สามารถสั่งได้ เป็นเพียงข้อตกลงกันว่า ในสนามรบตนต้องเป็นใหญ่ แต่เมื่อเลิกรบ ท่านเป็นใหญ่ ฉะนั้นตนกำลังรบอยู่และได้เปรียบ อย่ามาห้ามตนเองรบ แต่ถ้าหลังเลิกรบแล้ว ท่านจะมาตัดหัวตนก็ไม่เป็นไร หรือ ตราบใดที่ตนเองยังรบอยู่ ท่านอย่ามาห้าม แต่เมื่อไหร่ที่ท่านหมดคดีความ หรือไม่ใช้ตนแล้ว ท่านก็ถอนตนก็จบ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ตนเองบอกกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และท่านก็โอเคในส่วนนี้.