เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายนิพล มั่งมูล อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 207 หมู่ 4 บ้านหนองปรือ ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท ไชยา สระโสม รองผกก.(หัวหน้าพนักงานสอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้ติดตั้งลิ้งค์แล้วดูดเงินในบัญชีไปจำนวน 1,300,000 บาท เหลือเงินติดบัญชีเพียง 30 สตางค์ พนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องไว้แล้วทำการตรวจสอบชื่อบัญชีที่รับโอนเงินพบว่าเป็นบัญชีรับโอนของ นายอุเทน เที่ยงดี แต่ปรากฏว่าเงินในบัญชีได้ถูกถ่ายโอนไปเรียบร้อยแล้ว

นายนิพล เล่าว่า ตนรับราชการครูสอนอยู่ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อปี 63 ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายพิการ ไม่สามารถสอนหนังสือได้ จึงจำเป็นต้องลาออกมาใช้ชีวิตอยู่บ้านที่ จ.บุรีรัมย์ ต่อมาภรรยาที่อยู่ด้วยกันหนีไป เพราะทนอยู่กับคนพิการไม่ได้ ปล่อยให้ตนอยู่กับลูกชายอายุ 20 ปีตามลำพัง แต่ยังมีความหวังว่าอาจจะรักษาตัวหายแล้วขอเข้ารับราชการคืน

อดีตครู เล่าต่อว่า เมื่อประมาณปลายเดือนที่ผ่านมา ได้จึงตัดสินใจขายที่นาจำนวน 6 ไร่ของพ่อที่มีอยู่ ได้เงินมา 1,300,000 บาท ใส่บัญชีตัวเองไว้ แต่เงินที่ขายที่ดินได้จะต้องเตรียมเอาไปใช้หนี้แทนน้าชายที่เอาที่ดินของตัวเองไปจำนองอีก 1,200,000 บาท ตั้งเป้าหมายจะเอาเงิน 1 แสนที่เหลือไปรักษาตัวเองให้ดีขึ้น กระทั่งวันนี้ได้มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานแห่งหนึ่ง มีความประสงค์จะคืนเงินให้เดือนละ 800 บาท ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา แต่ตนไม่สะดวกที่จะเข้าแอปฯ ของหน่วยงานดังกล่าวเพราะพิการ จึงให้ลูกชายทำรายการต่อ ก่อนพบว่าเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท โดนดูดเอาไปทั้งหมด เหลือเงินติดบัญชีที่ 30 สตางค์เท่านั้น สุดท้ายที่ดินของตัวเองที่น้าชายยืมไปยังคงติดหนี้เหมือนเดิม

นายนิพล เล่าอีกว่า ที่ผ่านมาตนพอรู้บ้างเรื่องมิจฉาชีพ แต่ถ้ามาแบบนี้บางครั้งไม่ได้ตั้งใจจะให้โดนหลอก ประกอบกับสภาพร่างกายของตนไม่พร้อมที่จะตั้งสติ จึงถูกกระทำแบบนี้ ตอนนี้อยากจะให้ตำรวจเร่งติดตามหาตัวการมาดำเนินคดีโดยเร็ว กลุ่มนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะคนไทยด้วยกันที่หลอกกันเอง.