เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่เกิดการสู้รบที่ประเทศอิสราเอลนั้น ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยที่ไปทำงานในภาคการเกษตรจำนวนมาก ต้องหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย บางส่วนก็เสียชีวิตจากการสู้รบดังกล่าว และบางส่วนก็ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ในขณะที่ทางรัฐบาลก็มีความพยายามที่จะนำตัวแรงงานไทยที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศ โดยจัดส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศไปรับแรงงานไทย เพื่อให้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ทางด้านนางอมรวรรณ ช่วงเพ็ชจินดา แรงงานจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางจังหวัดตรังไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการตรวจสอบพบว่ามีแรงงานไทยจังหวัดตรังไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล จำนวน 3 คน เดินทางไปทำงานด้านการเกษตร ซึ่งจากการสอบถามครอบครัวของแรงงานทราบว่าขณะนี้ทั้ง 3 คน เป็นชาวอำเภอห้วยยอด 2 คน และชาวอำเภอหาดสำราญ 1 คน ขณะนี้ปลอดภัยดี และไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศ ต้องการที่จะทำงานต่อ และเปลี่ยนสถานที่ทำงานมากกว่า ส่วนความช่วยเหลือจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

ทางด้านนางสาวเบญจมาศ คงแก้ว นักจัดการทั่วไปชำนาญการ รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดตรัง และนางสาวนิภารัตน์ โยมา นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กล่าวว่า การให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ แรงงานไทยเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในกรณีประสบปัญหาจากภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด สงเคราะห์คนละ 15,000 บาท กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ สงเคราะห์จำนวน 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท กรณีประสบอันตรายจนพิการ สงเคราะห์คนละ 15,000 บาท ทุพพลภาพ สงเคราะห์คนละ 30,000 บาท สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 (24 ชั่วโมง) และ 0-2245-6710-11 (ในวันและเวลาราชการ)

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวของแรงงาน เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของครอบครัวแรงงาน พร้อมทั้งให้กำลังใจกับครอบครัว หากพบว่าครอบครัวแรงงานเป็นกลุ่มเปราะบาง จะให้ความช่วยเหลือโดยการมอบถุงยังชีพ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น.