กรณี นายเบ็น เหล่างาม หรือ “เบ็น พะเนียงแตก” หรือ “เบ็น มาบแค” อายุ 29 ปี ใช้อาวุธปืนยิง นายพิรุณ ยศเครือ อายุ 33 ปี เซียนไก่ชนคู่พนัน ชาว อ.กำแพงแสน จนเสียชีวิต ภายในสนามชนไก่วรวิช อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังนายเบ็น เสียพนันและยกพวกเข้าตะลุมบอนกัน โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไป ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเร่งล่าตัว นั้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่บริเวณหน้า สภ.ดอนตูม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภาค 7 พร้อม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมแถลงผลการจับกุม นายสรศักดิ์ เหล่างาม หรือ เอ็ม อายุ 34 ปี พี่ชายนายเบ็น และนายดนุชเดช ฉายทองคำ อายุ 24 ปี ข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำผิด หรือผู้ต้องหากระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ หรือไม่ให้ต้องโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม โดยจับได้พร้อมของกลาง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 3000 นครปฐม อาวุธปืนขนาด 9 มม. และกระสุนปืน 10 นัด

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ตามจับมาได้แล้ว 2 คน เป็นพี่ชายของมือปืน หลังชุดสืบสวนลงไปกดดัน เชิญตัวพ่อมือปืนมาสอบสวน และเข้าค้นบ้านของมือปืน ซึ่งทำให้นายสรศักดิ์ พี่ชายมือปืนได้เข้ามามอบตัว พร้อมกับอาวุธปืน ส่วนอีกคนหนึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตามจับมาได้ ซึ่งทั้ง 2 คน มีหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม เป็นผู้ที่ช่วยเหลือพามือปืนหลบหนีจากสนามกีฬาชนไก่ โดยมีคนนำรถมาให้มือปืนขับหลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทั้งหมดแล้ว ทั้งรถที่มือปืนใช้ในการหลบหนี รวมถึงคนที่นำรถมาให้มือปืนขับหลบหนีไป จุดเปลี่ยนรถที่ไหน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ยืนยันชุดอินทรีย์ 7 กำลังเร่งไล่ล่า ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนี มีอาวุธปืนอยู่ในมือ หากไม่เข้ามามอบตัว หรือไม่ยอมให้จับกุม ก็อาจจะต้องใช้ยุทธวิธีของตำรวจในการจับกุมผู้ต้องหาที่อาวุธอันตรายอยู่ในมือ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มบุคคลทั้ง 2 กลุ่ม มีภาพปรากฏชัดเจน วันนี้จะออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน และออกหมายเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด รวมกว่า 30 คน ส่วนอาวุธปืนของนายเอ็ม คนที่ขับรถพามือปืนหลบหนี ตำรวจต้องยึดมาเพื่อตรวจพิสูจน์ว่า เป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงนายพิรุณ เสียชีวิตหรือไม่ เนื่องจากอาวุธปืนของคนที่พามือปืนหลบหนี เป็นอาวุธปืนขนาดเดียวกันกับปืนที่ใช้ก่อเหตุ กระสุนขนาดเดียวกัน

ขณะทางด้านแม่ของนายเบ็น ที่เดินทางมาที่ สภ.ดอนตูม พร้อมทนายความ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ครอบครัว หลังตำรวจไปตรวจค้นที่บ้าน และยึดปืนมาตรวจสอบ ซึ่งแม่นายเบ็น บอกว่า ปืนที่ตำรวจนำมาแถลงข่าวในวันนี้ ไม่ใช่ปืนที่ใช้ก่อเหตุ แต่เป็นปืนของนายเอ็ม ลูกชายคนโต เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนนายเอ็ม ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจเอง ไม่ได้ถูกจับกุมตามที่เป็นข่าว ขณะที่นายเบ็น ตอนนี้ตนพยายามติดต่ออยู่ ยังไม่รู้เหมือนกันว่า ลูกชายไปอยู่ที่ไหน ขอเวลา 3-4 วัน ถ้าลูกชายติดต่อมา จะรีบพามามอบตัวกับตำรวจ

นอกจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนบางสำนักไปเฝ้าที่บ้าน นำเสนอข่าวผิดๆ กล่าวหาว่าที่บ้านไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เวลานี้ลูกหลานไปโรงเรียน ก็มีแต่คนถาม แล้วเด็กๆ จะรับได้หรือไม่ ขณะนี้ได้ติดต่อทนายความไว้แล้ว หากยังคงนำเสนอข่าวผิดๆ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน.