จากกรณีเพจดังได้โพสต์คลิปเตือนสตินักท่องเที่ยว หยุดคุกคามสัตว์ป่า หลังปรากฏคลิปกลุ่มช่างภาพและนักท่องเที่ยว พากันเดินหน้าเรียงแถวเข้าหา โขลงแม่ด้วน ช้างป่าเขาใหญ่ พร้อมลูกน้อยรวม 3 ตัว บนถนนธนะรัชต์ ฝั่ง จ.ปราจีนบุรี ทำให้ช้างป่าตกใจ เนื่องจากด้านหลังก็มีคน ด้านหน้าก็มีรถ และคนล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นการกระตุ้นให้ช้างป่าเครียดและหงุดหงิดเดินไปข้างหน้าเร็วขึ้น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกับลูกช้างในโขลง นั้น

หยุดคุกคามสัตว์ป่า! เตือนสตินักท่องเที่ยว หลังปรากฏคลิปเดินกดดัน ‘โขลงแม่ด้วน-ลูกน้อย’

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า

หลังจากที่ดิฉันเห็นเพจดังนำคลิปสั้นมาลง และติดโพสต์ว่าช่างภาพคุกคามช้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8/10/66 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดิฉันอยากให้ฟังความเห็นทั้ง 2 ฝ่าย หรือฟังผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริง

วันนั้นในระหว่างดิฉันเห็นช่างภาพและนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่บริเวณ กม.35 สักพักช้างแม่ลูกและช้างพี่เลี้ยงได้เดินออกมาจากข้างป่าอย่างกะทันหัน สถานการณ์ตอนนั้น ชุลมุนด้วยรถจำนวนมากที่สัญจรไปมา

ตอนนั้นฉันได้ยินช่างภาพบอกนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้นว่าเป็นช้างแม่ลูกอ่อน ให้ระวังเพราะเค้าหวงลูกเล็ก พวกช่างภาพคอยบอกนักท่องเที่ยวให้รักษาระยะห่างให้มากที่สุด ในระหว่างรอเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มาดูแลความปลอดภัย ดิฉันก็เห็นว่าหลายคนช่วยกันรถไม่ให้ขับแซงช้างขึ้นไป และให้รักษาระยะห่าง ได้ยินบางคนพูดว่าอย่ากดดันช้าง ให้เดินระนาบเดียวกันเพื่อความเป็นระเบียบ

ในวันนั้น ดิฉันเห็นว่ามีช่างภาพมีทั้งด้านหน้าและด้านหลังช้าง ซึ่งระยะห่างวัดจากความจริงประมาณ 70 เมตรขึ้นไป หรือ 5 เส้นเหลืองมากกว่าเกณฑ์ของอุทยานฯ ซึ่งกำหนดระยะปลอดภัยไว้เพียง 30 เมตร (ข้อมูลนี้ได้มาจากเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้าง)

ในฐานะที่ดิฉันเป็นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติของป่าเขาใหญ่ ได้เจอช้างและช่างภาพ หลายต่อหลายครั้ง ดิฉันจึงอยากให้ฟังความทั้งสองข้าง อย่าโจมตีใครคนใดคนหนึ่งเลย ถ้าท่านไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ภาพเดียวคลิปเดียวไม่อาจตัดสินใครคนใดคนหนึ่งได้ เพราะภาพผ่านเลนส์กับผ่านดวงตาแตกต่างกันมาก อยากให้ดูจากองค์ประกอบที่แนบมา ว่าขนาดของคน ขนาดของตัวช้าง เล็กต่างกันแค่ไหน

ภาพที่ 1 เป็นภาพมุมกว้างที่เห็นบรรยากาศโดยรวม
ภาพที่ 2 ในวงกลมจะเป็นช่างภาพท่านหนึ่งได้ถ่ายย้อนมาทางฝั่งด้านหลัง ที่ดิฉันอยู่ และน่าจะทำให้เกิดคลิปที่เป็นการโจมตีช่างภาพอย่างรุนแรงในขณะนี้

และคลิปฝั่งตรงข้ามจากคลิปต้นเรื่อง
ดิฉันอยากฝากถึงเพจที่นำบทความไปลงและบิดเบือนผิดไปจากความจริงอย่างมาก การกระทำของท่านในครั้งนี้ก่อให้ความเสียหายแก่ผู้อื่นอย่างมาก ท่านควรตรวจสอบหาความจริงก่อนนำไปเผยแพร่.