เมื่อวันที่ 20 ต.ค. พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของนายทองมา รินทลักษ์ อายุ 73 ปี ที่บ้านเลขที่ 170 หมู่ 11 บ้านโนนสำราญ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพ่อของนายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ อายุ 43 ปี แรงงานอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกันจากเหตุการณ์การสู้รบภายในประเทศ โดยได้พูดคุยสอบถามรายละเอียด มอบกระเช้าเป็นกำลังใจให้กับครอบครัว

นางอั้ว จอมทิพย์ น้าของนายสุทธิศักดิ์ เล่าว่า หลานชายไปทำงานเกษตร ที่ประเทศอิสราเอล ได้ 6 ปีแล้ว โดยที่ทำงานอยู่ภาคใต้ใกล้กับฉนวนกาซา จุดสู้รบ ก่อนจะเกิดการสู้รบ หลานชายจะโทรศัพท์ติดต่อกับทางบ้านเป็นประจำ เพราะพ่อแม่แก่มากแล้ว และส่งเงินมาให้ทางบ้านไม่ขาด เป็นเสาหลักของบ้าน หลานชายเคยมีครอบครัวแต่เลิกรากันไป จึงไปทำงานที่อิสราเอลกับพี่สาวที่รู้จักกันในหมู่บ้านเดียวกัน จนกระทั่งวันที่ 7 ต.ค. 66 พี่สาวคนงานที่ชวนไปทำงานโทรศัพท์มาบอกและส่งคลิปเหตุการณ์มาให้ดูว่า หลานชายถูกจับเป็นตัวประกัน 

โดยตอนที่คนร้ายได้บุกเข้ามา คนที่ถ่ายคลิปหลบหนีขึ้นต้นไม้จึงได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ มีการทิ้งระเบิดเข้าไปในแคมป์คนงาน ตอนแรกนึกว่าจะถูกฆ่าตายแล้ว จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ทันทีที่ทราบข่าวต่างตกใจ เครียด วิตกกังวลสารพัด หน่วยงานราชการก็มาแจ้งข่าวและมาให้กำลังใจ แม่ของนายสุทธิศักดิ์เครียดห่วงลูกมากจนต้องเข้าโรงพยาบาลรัตนวาปี ได้ 5 วันแล้ว กินไม่ได้นอนไม่หลับ ญาติพี่น้องได้แต่คอยติดตามสถานการณ์และพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระขอพร สิ่งเดียวที่ขอตอนนี้คือ ขอให้หลานชายปลอดภัยเท่านั้น

ด้านนางบัวสา โคตรชัย อายุ 73 ปี ซึ่งลูกสาวไปทำงานที่อิสราเอลและเป็นคนส่งคลิปเหตุการณ์มาให้ดู บอกว่า ลูกสาวไปทำงานได้ 4 ปีแล้ว ตอนนี้ยังอยู่ใกล้พื้นที่สู้รบ นายจ้างพาหลบหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ไม่ได้อพยพออกจากเมือง อาศัยหลบในหลุมหลบภัย แต่ยังสามารถติดต่อกับทางบ้านได้ ทุกครั้งที่โทรศัพท์กลับมา ก็จะได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิดอยู่ใกล้ๆ ใจหนึ่งก็อยากให้ลูกกลับบ้าน ลูกสาวก็อยากกลับแต่ก็กลัวว่ากลับมาแล้วจะไม่มีเงินใช้หนี้ที่ติดอยู่ประมาณ 4 แสนบาท จะไม่มีเงินส่งลูกเรียน ตนก็ได้แต่บอกให้ลูกหลบภัยให้ดี ขอให้ปลอดภัยเท่านั้น