เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเตรียมเปิดประเทศว่าการเปิดประเทศต้องพิจารณาเป็นพื้นที่เช่น ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นตัวอย่างให้หลายจังหวัดได้ดูวิธีบริหารจัดการเตรียมความพร้อมและมีบทเรียนให้เรียนรู้ ซึ่งต่อมาเกิดโครงการสมุยพลัสที่ดำเนินการในรูปแบบที่ใกล้เคียงกันโดยใช้ประสบการณ์ของภูเก็ต

“เพราฉะนั้นจังหวัดต่อๆ ไปสามารถวางแผนให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ แต่เราคงประเมินเป็นพื้นที่ไปไม่ได้เปิดพร้อมกันทั้งหมด แต่มีบางจังหวัดที่พร้อมมาก พร้อมระดับกลาง ส่วนจังหวัดที่มีความพร้อมน้อยอาจต้องรอนิดนึง” นพ.โสภณ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีกทม. เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ วันที่ 15 ต.ค.เป็นไปได้หรือไม่นั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ยากคงต้องช่วยกันประเมินเพราะ กทม.มีพื้นที่ขนาดใหญ่และพบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย ต้องดูสถานการณ์แต่ กทม.ได้เปรียบตรงที่ฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมสูง แต่ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนพื้นที่เป้าหมายเพื่อเปิดการเดินทาง รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แต่ละจังหวัดต้องจัดทำแผนฉีดวัคซีนมีความคืบหน้ากี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกรมควบคุมโรค จะจัดสรรวัคซีนให้สอดคล้องกับความจำเป็น ซึ่งคาดว่าตั้งแต่ ต.ค. เป็นต้นไป จะมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา.