กรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ย “แป้ง นาโหนด” ออกมาปล่อยคลิป แฉไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีหนึ่ง ที่เคยเป็นผู้ต้องหาร่วมกับอัยการท่านหนึ่ง แต่ตัวเองถูกดำเนินคดีคนเดียว นั้น

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตั้งแต่ที่มีข่าวเกี่ยวกับอัยการได้มีส่วนร่วมในเรื่องของ นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ทางผู้บริหารของอัยการสูงสุดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบสั่งการให้ทางอธิบดีภาค 9 สั่งตรวจสอบสำนวนคดี และพบว่า มีสำนวนคดี 1 ที่มี “อัยการที่ถูกพาดพิง” เข้าไปเกี่ยวข้องจริง โดยคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 โดยนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง เป็นผู้ต้องหาที่ 1 และอัยการดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาที่ 2 รวมมีผู้ต้องหา 7 คน ถูกตั้งข้อหาร่วมกัน ปล้นทรัพย์ฯ, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ, มีอาวุธฯ, พาอาวุธไปที่สาธารณะฯ ต่อมาเมื่อถึงชั้นอัยการ ได้มีการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-6 คน สั่งฟ้องนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง คนเดียว ซึ่งเมื่ออัยการได้มีคำสั่งดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ได้ส่งความเห็นแย้ง คดีจึงสิ้นสุดไปในส่วนของผู้ที่ไม่ถูกสั่งฟ้อง ต่อมาศาลสั่งลงโทษจำคุก นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง จนนำไปสู่การหลบหนีออกจากโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้สั่งการให้อธิบดีอัยการภาค 9 เร่งส่งสำนวนคดีดังกล่าวมาให้ทางสำนักงานวิชาการ วิเคราะห์ว่าเป็นการสั่งฟ้องที่ถูกต้องหรือไม่ หรือควรมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งหรือไม่อย่างไร คาดดำเนินการในการส่งสำนวนมา และการวิเคราะห์จะมีผลออกมาภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากทราบว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน และอยู่ในความสนใจของประชาชน ทางสำนักงานอัยการสูงสุดและผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการทำงาน หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดจะแจ้งความคืบหน้าต่อสื่อมวลชนต่อไป.