เห็นหลายคนที่เป็นแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์บึนปากใส่อยู่ว่า “ดูออกนะคะ” ..ไอ้สองครั้งแรกที่เลือกตั้งหัวหน้าพรรคไม่ได้เสียทีก็เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนกัน คุ้นๆ ว่า ครั้งแรกองค์ประชุมก็ครบๆ อยู่ดีๆ พอจะโหวต…หาย แล้วให้เหตุผลแบบ..คือแบบขอไปที ว่าตอนบ่ายมีภารกิจ เลยไม่ได้ประชุม

พอครั้งที่สองก็เกิดเหตุเภทภัยให้โหวตไม่ได้อีก ตอนนั้นแหละ ที่ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ออกมาเม้งลูกพรรคว่า เงินหมดกับค่าประชุมครั้งละเท่าไร?  คราวนี้ต้องโหวตให้ได้ และแม้จะประกาศวางมือ  แต่ในที่สุด เสี่ยต่อก็ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีนายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง สส.ประชาธิปัตย์ผู้กว้างขวางใน จ.สงขลา เป็นเลขาธิการพรรค

“อาฟเตอร์ช็อก”หลังเหตุการณ์เลือกหัวหน้าพรรค 9 ธ.ค.คือ เลือดทยอยไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และมีการแฉประจานกันตรงๆ ในที่ประชุม ว่า “มันมีการล็อกโหวตไว้แล้ว” คนพูดคือ นายสาธิต ปิตุเตชะ บ้านใหญ่ระยองเก่าของพรรค ขณะเดียวกัน นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคก็ออกมาพูดกลายๆ ว่า “ก็คงจะอย่างนั้น”

เลือดไหลออกครั้งใหญ่คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคที่เหมือนจะเป็น “โลโก้คนรุ่นใหม่” ของพรรค ที่ประกาศลาออกจากสมาชิก จนนายชวนให้สัมภาษณ์ขอไว้ก่อนทำนองว่า…อย่าเพิ่งไปไหน อาจเป็นเพราะหวังว่า ในอนาคตอาจฟอร์ม “ดรีมทีมประชาธิปัตย์” ขึ้นมาดึงคะแนนนิยมได้อีกครั้ง ในภาวะที่การเมืองต้องการคนรุ่นใหม่

การเมืองในปัจจุบันเป็นการเมืองที่มีการแบ่งขั้วชัดเจน ระหว่างฝั่งที่ถูกมองว่าเป็นฝั่งอนุรักษนิยม กับฝั่งเสรีนิยม นายอภิสิทธิ์เคยได้สะท้อนปัญหาไปว่า “พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความชัดเจนในจุดยืน” และภาพนั้นก็ยิ่งชัดขึ้นมาเมื่อ สส.ที่ว่ากันว่าอยู่ในกลุ่มนายเฉลิมชัย ไปขัดมติพรรค โหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ อ้างว่าเพื่อปลดล็อกวิกฤต

อย่างไรก็ตาม เมื่อเลือกหัวหน้าพรรคแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ “เสี่ยต่อ” ต้องนำพรรคให้ค่อยๆ กลับมาเติบโตได้ อาจต้องเริ่มเป็นพรรคภูมิภาค อย่างการยึดภาคใต้คืนให้สำเร็จให้ได้มากที่สุด และรักษาฐานที่มั่นเดิมในภาคอื่นๆ ไว้ ดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมทำงาน ซึ่งอันนี้ดูท่าจะยาก เพราะคนรุ่นใหม่หลายคนถ้าเห็นว่าตัวเองมาแล้วไม่เกิดก็ไม่มา

เขาจะมองปัจจัยที่ให้เขามีบทบาทในการตัดสินใจอะไรมากน้อยแค่ไหนในพรรค เหตุการณ์เลือดไหลออกเคยมีสมัยพรรคชาติไทยพัฒนาเลือกหัวหน้าพรรค ที่เดิม จะดึงคนรุ่นใหม่เข้ามามากขึ้น ตั้ง “เสี่ยโต้ง” นายสุทธิพงษ์ อังคสกุลเกียรติ คนดังศรีสะเกษ นายทุนหนังสัปเหร่อ มีอำนาจบริหารในพรรค แต่ก็กลับเลือกหน้าเดิม

สุดท้ายชาติไทยพัฒนาเลือดไหลไปภูมิใจไทยเยอะแต่ยังคงเป็นพรรคที่รักษาพื้นที่เดิมได้เหนียวแน่น ประชาธิปัตย์ก็อาจต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เช่นนั้น ถามว่าตอนนี้จะชูบทบาทคนรุ่นใหม่คนไหนให้เด่น ที่มองๆ ว่าเด่นสมัยรัฐบาลที่แล้วอย่าง น.ส.วทันยา นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ขณะนี้ก็ค่อนข้างเงียบ รอดูการวางบทบาทในพรรค

เลือดใหม่ ต้องไม่ใช่ลูกหลานบ้านใหญ่ มีผลต่อภาพลักษณ์และการปรับปรุงพรรคไม่น้อย นี่คือโจทย์.