เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล พร้อมด้วยนายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำ ร่วมกันทำกิจกรรมสัปดาห์ตามหาความยุติธรรมที่หายไป โดยเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรื่อง ขอให้รีบนำตัวผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร กลับเรือนจำ โดยมีนายสมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายพิชัย กล่าวว่า ภายหลังที่ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ได้อ้างสิทธิในการเป็นผู้ป่วยแล้วย้ายมารักษาตัวนอกเรือนจำ เมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค. 66 และกรมราชทัณฑ์ได้อนุญาตให้มีการรักษาตัวต่อหลังจากที่ผ่านไป 60 วันนั้น โดยอ้างความเห็นของคณะแพทย์ ที่อ้างว่ามีการผ่าตัดใหญ่ของนักโทษนั้น จนถึงปัจจุบันผ่านมากว่า 114 วัน และใกล้จะครบ 120 วัน ที่ระเบียบกรมราชทัณฑ์ต้องให้ท่านได้อนุญาตการรักษาตัวนอกเรือนจำต่อไปหรือไม่นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงที่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นบุตรสาวของ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าอาการของ น.ช.ทักษิณ อยู่ระหว่างการพักฟื้นร่างกาย เราจึงเห็นว่ากระบวนการอ้างระเบียบการรักษาตัวนอกเรือนจำ ที่พา น.ช.ทักษิณ ออกมานอนที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่ต้น ได้มาถึงทางเลือกที่จะอ้างอาการเจ็บป่วยไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากการนอนพักฟื้นร่างกายหลังอ้างการผ่าตัดนั้น ระเบียบกรมราชทัณฑ์ให้รีบนำกลับมานอนพักฟื้นได้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีศักยภาพในการรับผู้ต้องขังเด็ดขาด มานอนรักษาตัวในระยะพักฟื้นได้

นายพิชัย กล่าวอีกว่า การจะอนุญาตให้มีการนอนพักฟื้นตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจต่อหลังจากครบ 120 วัน อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 157 การใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเลือกปฏิบัติอันเป็นคุณเป็นโทษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ ภายหลังที่สังคมได้ติดตามกระบวนการอ้างระเบียบพา น.ช.ทักษิณ ออกมาจากเรือนจำตลอดเวลาที่ผ่านมา กลับพบว่ากรมราชทัณฑ์ได้เร่งรีบประกาศระเบียบกรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่ ที่ประกาศให้มีการกำหนดพื้นที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 66 เราจึงมีความเป็นห่วงว่ากระบวนการยุติธรรมไทย กำลังเร่งออกระเบียบและการใช้ระเบียบ เพื่อเอื้ออภิสิทธิ์แก่ น.ช.ทักษิณ เป็นการเฉพาะหรือไม่

เนื่องจากตั้งแต่กระบวนการแรก ก็อ้างระเบียบในการออกมารักษาตัวนอกเรือนจำเป็นเวลา 114 วัน อ้างผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง มาจนถึงปัจจุบัน ก็มีการประกาศใช้ระเบียบการกำหนดพื้นที่ต้องขังใหม่แทนเรือนจำ คปท. เห็นว่านี่เป็นการวางแผนใช้ระเบียบพาตัวผู้ต้องขังเพียง 1 คน ไม่ให้ติดเรือนจำจริงแม้แต่วันเดียว เนื่องจากหลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาที่คุมขังใหม่นั้นเป็นที่เข้าใจได้ว่า น.ช.ทักษิณ จะได้ใช้สิทธิระเบียบใหม่เป็นคนแรก ซึ่งก็เท่ากับว่าผู้ต้องขังเด็ดขาด น.ช.ทักษิณ ผู้ต้องขังตามหมายศาลคดีทุจริตคอร์รัปชั่นจะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว คือ วันแรกก็เบิกตัวมานอนโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อครบ 120 วัน ก็อ้างระเบียบกำหนดให้บ้านจันทร์สองหล้าเป็นที่คุมขังอื่นตามระเบียบ และเมื่อเข้าหลักเกณฑ์พักโทษวันที่ 22 ก.พ. 67 ก็ได้รับการพักโทษตามระเบียบกรมราชทัณฑ์อีกครั้ง การกระทำโดยร่วมกันอ้างระเบียบเช่นนี้ เท่ากับเป็นการทำลายคำพิพากษาของศาลด้วยระเบียบของกรมราชทัณฑ์

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ทาง คปท. มองว่าการร่วมกันใช้ระเบียบเป็นข้ออ้างสำหรับนายทักษิณ เป็นการทำลายคำพิพากษาของอำนาจตุลาการ จึงขอเรียกร้อง 3 ประการ ดังนี้ 1. กรณีที่มีการประกาศใช้ระเบียบกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำนั้น นายทักษิณเข้าหลักเกณฑ์ในการใช้ระเบียบข้อนี้หรือไม่ อย่างไร 2.ขอให้เร่งนำตัวนายทักษิณกลับเรือนจำโดยทันที เนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของบุตรสาวล่าสุด ได้ระบุชัดเจนว่านายทักษิณ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากการผ่าตัด กรมราชทัณฑ์ย่อมสามารถนำตัวกลับมารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ และ 3.ขอให้กรมราชทัณฑ์รักษากระบวนการยุติธรรม สร้างความเป็นธรรมให้กฎหมายมากกว่าการให้อภิสิทธิ์แก่คนใดคนหนึ่งตามศักดิ์ศรีข้าราชการฝ่ายยุติธรรม

ขณะที่นายสมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า สำหรับกรณีที่นายทักษิณได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ณ ชั้น 14 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้มีการชี้แจงเรื่องการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำมาอย่างต่อเนื่อง ต่อหน่วยงานและคณะกรรมาธิการที่เรียกสอบถาม อีกทั้งการที่ผู้ต้องขังได้รับความเจ็บป่วย ราชทัณฑ์มีหน้าที่ต้องส่งรักษา ส่วนโรงพยาบาลที่รับตัวผู้ต้องขังไปรักษาก็จะเป็นผู้กำหนดพื้นที่เอง ซึ่งทางโรงพยาบาลตำรวจก็ได้มีการตอบข้อซักถามจากผู้ตรวจการแผ่นดินว่าห้องพักชั้น 14 นั้น ไม่ได้เป็นห้องพิเศษแต่อย่างใด และในขณะนั้นช่วงรับตัวนายทักษิณแรกๆ มีเกิดภาวะวิกฤติเกี่ยวกับโรคหัวใจ ซึ่งจริงๆ แล้ว นายทักษิณจำเป็นต้องอยู่ในห้องไอซียู เพียงแต่ว่าวันนั้นห้องไอซียูของโรงพยาบาลเต็ม ไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ และเดิมทีห้องบนชั้น 14 ใช้สำหรับการรักษาโรคโควิด-19 และยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน ทางแพทย์จึงพิจารณาว่าในกรณีผู้ป่วยวิกฤติเช่นนี้ จึงต้องนำตัวนายทักษิณไปรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของแนวทางการรักษา ทางกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถไปล่วงอำนาจหน้าที่การรักษาของแพทย์ได้

นายสมภพ กล่าวอีกว่า สำหรับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ที่เพิ่งมีการประกาศลงนามล่าสุดนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการออกมาเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อนายทักษิณ แต่เพียงแค่ว่า จังหวะมันดันมาตรงกับในช่วงนี้พอดี และขอชี้แจงว่าระเบียบเพิ่งมีการประกาศบังคับใช้ ซึ่งมันยังมีอีกหลายขั้นตอนที่จะต้องไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพราะเราไม่ได้ออกระเบียบมาเพื่อคนๆ เดียว แต่เราออกระเบียบมาเพื่อรองรับกับผู้ต้องขังทุกคน ที่จะผ่านเกณฑ์ตามที่ได้มีการกำหนดไว้ และในขั้นตอนระหว่างนี้ เรายังต้องดำเนินการหลายประการ ใช้เวลาพอสมควร เช่น รอคำสั่งจากศาล หรือรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่ว่าภายหลังจากประกาศบังคับใช้ระเบียบแล้ว จะสามารถดำเนินการได้ทันที จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าภายในปีนี้ นายทักษิณ หรือผู้ต้องขังรายใดบ้าง ที่จะเข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิประโยชน์จากระเบียบดังกล่าว  

นายสมภพ กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบระยะเวลาในการที่แต่ละเรือนจำหรือทัณฑสถาน จะไปสำรวจรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์จะได้รับสิทธิประโยชน์จากระเบียบคุมขังนอกเรือนจำนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ยังไม่ได้มีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพราะยังมีหลายขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อน และระเบียบเพิ่งประกาศบังคับใช้ ซึ่งหากมองขั้นตอนเบื้องต้นในหลักการปฏิบัติ เช่น เรือนจำ/ทัณฑสถานแต่ละแห่ง มีการสำรวจรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ ภายหลังจากรับทราบแนวทางปฎิบัติของกรมราชทัณฑ์แล้ว ก็จะต้องจัดทำรายชื่อเพื่อส่งให้คณะกรรมการพิจารณา จากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของการกำหนดอาณาเขตหรือพื้นที่ที่จะใช้สำหรับเป็นสถานที่คุมขังอื่น เพื่อพิจารณาว่าผู้ต้องขังแต่ละรายคดีนั้นๆ จะได้รับการคุมขังที่ใด ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น จะต้องไปดูด้วยว่าคณะกรรมการพิจารณาที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องจะประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดบ้าง และเมื่อพิจารณาเสร็จสิ้น ทางเรือนจำแต่ละแห่งก็จะดำเนินการแจ้งต่อผู้ต้องขังที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากระเบียบดังกล่าว ทั้งนี้ กรณีของนายทักษิณ จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาในสิทธิประโยชน์จากระเบียบดังกล่าวภายในปีนี้ เพราะกรมราชทัณฑ์จะต้องสำรวจผู้ต้องขังทั่วประเทศ ดังนั้น จะมองแค่กรณีของนายทักษิณเพียงรายเดียวไม่ได้ 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. กลุ่ม คปท. จะร่วมกันเดินทางไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือสอบถามถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่นายทักษิณ จะมีการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำเกินกว่า 120 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ รวมถึงในกรณีที่มีการประกาศลงนามบังคับใช้ระเบียบคุมขังภายนอกเรือนจำ ว่าเป็นการเอื้อต่อนายทักษิณหรือไม่.