เนื้อหาระบุว่า ด้วยกรมราชทัณฑ์ได้ประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2560 โดยสาระสำคัญของระเบียบนี้ เป็นการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำ หรือ จำคุกนอกเรือนจำ ตามมาตรา 33 แห่งพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังแต่ละประเภทและการอื่น ตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
จนมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมออกมาว่า การออกระเบียบนี้ เอื้อประโยชน์ให้นักโทษไปติดคุกที่อื่นได้ เพื่อรองรับนักโทษชั้นพิเศษอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหรือไม่
ซึ่งมีหลายเสียงหลายฝ่ายออกมาพูดในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่าการดำเนินการของระเบียบนี้ออกมา เพราะ นายทักษิณ เอง ก็กำลังจะครบกำหนดการรักษาตัวนอกเรือนจำ 120 วัน ภายในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ ซึ่งทำให้สังคมยิ่งมุ่งคำถามไปยังผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้เพราะเข้าใจว่าการดำเนินการเช่นนี้ นักโทษจะได้ใช้ระเบียบใหม่ ต้องมี นายทักษิณ ติดไปอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน
และถึงแม้ว่าจะมีกระแสออกมาพูดเช่นนี้ แต่ในด้านของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของ นายทักษิณ ก็ยังมีคำตอบไม่ชัดว่า จะขอต่อขยายเวลาในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ หรือจะใช้สิทธิตามประกาศระเบียบของกรมราชทัณฑ์ การคุมขังนอกเรือนจำ เพราะต้องดูหลักเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ น.ส.แพทองธาร เองก็ยังไม่แน่ใจว่า กฎเกณฑ์และรายละเอียดเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม นายสหการณ์ เอง ก็ยืนยันว่าระเบียบดังกล่าว ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่เป็นกฎกระทรวงที่ระเบียบกำหนดไว้ ซึ่งยืนยันว่า ผู้ที่จะผ่านเกณฑ์นั้น ต้องได้รับการคัดกรองอย่างถี่ถ้วน ตามขั้นตอนของคณะทำงานการพิจารณาการคุมขังที่กำหนดไว้อยู่แล้ว
ซึ่งตอนนี้ ทางกรมราชทัณฑ์รวมถึงรัฐบาล ก็ต้องออกมาตอบคำถามให้กับสังคมว่า การออกกฎระเบียบนี้ขึ้นมา จะเกิดความเท่าเทียมกันได้หรือไม่ เพราะหากเอื้อให้กลุ่มคนใด หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็คงจะต้องทนกับการถูกจับตามองจากสังคม ว่าจะได้รับความเท่าเทียมกันได้อย่างไร และหากผลออกมาแล้ว นายทักษิณได้รับการคุมขังนอกเรือนจำได้จริงๆ ก็ต้องหาคำตอบที่สมเหตุสมผล เพื่อทำให้ประชาชนยอมรับกับการพิจารณาครั้งนี้ หากคำตอบยังกำกวม ไม่ชัดเจน ก็คงไม่พ้นกระแสสังคม ที่บอกว่า สังคมไทย มีนักโทษเทวดา? รออยู่เป็นแน่ และก็เป็นงานหนักที่ กรมราชทัณฑ์และรัฐบาล ต้องออกมาตอบคำถามอย่างไม่ขาดสาย ว่าระเบียบนี้เอื้อให้ใคร?
