เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. รายการโหนกระแส วันนี้พูดคุยกรณี น้องเฟิร์น นักศึกษาปริญญาเอก พลัดตกจากระเบียงห้องชั้น 6 หลังถูกคนเมาบุกไปทุบห้อง อาละวาดขู่เอาเรื่อง หลังเข้าใจผิดว่าเป็นห้องคู่กรณีที่จอดรถทับที่ โดยมีแม่บ้านเป็นคนชี้เป้าเลขห้องผิด

คุณปู คนที่อยู่ห้องพักติดกับน้องเฟิร์น เล่าว่า ตนอาศัยที่อพาร์ตเมนต์นี้มานาน 6 ปี แต่ปกติไม่ได้สุงสิงกับใคร ไม่รู้จักคนชื่อสมมาตรมาก่อน คืนเกิดเหตุ ช่วงประมาณตี 4 ตี 5 ได้ยินเสียงคนชื่อสมมาตร บุกมาทุบประตู แล้วตะโกนเสียงดังสนั่น ตะโกนโวยวายเสียงดัง จับใจความได้ว่าเป็นปัญหาเรื่องที่จอดมอเตอร์ไซค์ มีคนมาจอดทับที่ของเขา

คุณปู บอกอีกว่า ตลอดที่ผ่านมามันก็อยู่กันมาสงบดี แต่พอมาเจอเหตุการณ์นี้ มันไม่มีใครรู้สึกปลอดภัยอีกแล้ว สำหรับน้องเฟิร์นเราได้เจอแค่ครั้งสองครั้งเวลาน้องมาไขประตูเข้าห้อง ถึงไม่ได้สนิทสนมอะไร แต่น้องเขาเป็นคนที่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ใครเลย

ย้อนปมปัญหาไป มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนก ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สามีของตนมีปัญหากับสมมาตรมาหลายครั้ง เรื่องการจอดรถทับที่กัน และเรื่องล้างรถ เคยมีปัญหาจะชกต่อยกันหลายครั้งแล้ว และรถที่จอดในที่ของนายสมมาตรในวันเกิดเหตุ ก็คือรถมอเตอร์ไซค์ของสามีของคุณนกนี่เอง แต่สามีกับคุณนกอยู่ชั้น 7 ไม่ใช่ชั้น 6

คุณเอ เพื่อนของเฟิร์น คนที่เฟิร์นส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือในคืนเกิดเหตุ ย้ายเข้ามาพักที่อพาร์ตเมนต์นี้พร้อมกับเฟิร์น โดยเฟิร์นอยู่ชั้น 6 ส่วนตนอยู่ชั้นล่างๆ ลงมา ตอนที่เฟิร์นโทรฯมาขอความช่วยเหลือ เราตัดสินใจว่าจะทำยังไงดี ตอนแรกจะขึ้นไปช่วยเพื่อน แต่ก็กลัว ก็เลยวิ่งลงไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ. แต่พอลงมาถึงข้างล่าง ก็เห็นว่าเฟิร์นพลัดตกลงมาข้างล่างแล้ว

แม่ของเฟิร์นเล่าว่า เอโทรฯมาหาแม่ทันที แล้วเอาโทรศัพท์ไปแนบหูเฟิร์น บอกให้แม่เรียก บอกว่า “เฟิร์น คุยกับแม่ก่อน” แต่ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา ลูกไม่อยู่แล้ว

วันรุ่งขึ้นแม่ไปที่ห้องเฟิร์นทันที เห็นระเบียงมันสูง เชื่อว่าลูกต้องปีนแน่นอน แล้วแม่บ้านที่ชื่อป้าสา เขาขึ้นมาหาแม่ มาขอขมาแม่ บอกว่าป้าเป็นต้นเหตุ เป็นคนบอกเบอร์ห้องลูกกับคนก่อเหตุ เขาบอกว่าเขาขอโทษที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้

เท่าที่สอบถาม นายสมมาตรมาโวยวายถามแม่บ้านว่า มอเตอร์ไซค์ที่มาจอดทับที่เขาคือของใคร ของห้องไหน แม่บ้านชื่อป้าสาบอกว่าห้อง 604 ซึ่งเป็นห้องของเฟิร์นซึ่งมันไม่ใช่ แต่แม่มองว่า ไม่ว่าจะบอกถูกหรือผิด ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องบอกเลย เพราะต้องรู้สิว่ามันจะมีเรื่องแน่ๆ แล้วยามก็ได้ยิน ทำไมยามไม่ขึ้นไปจัดการ

แม่ของเฟิร์นยังบอกถึงพ่อแท้ๆ ของน้องเฟิร์น ซึ่งแยกทางกันไปตั้งแต่น้องเฟิร์น 2 ขวบ หลังเกิดเหตุเขาไปให้ข่าวว่าลูกขี้กลัวตั้งแต่เด็ก ได้ยินเสียงดังไม่ได้ ให้สัมภาษณ์เหมือนลูกเป็นแพนิก ซึ่งไม่จริงเลย ลูกเราไม่ได้เป็นอะไร เฟิร์นเป็นคนเก่ง พ่อไม่ได้เลี้ยงมาแล้วไปให้สัมภาษณ์แบบนั้นมันไม่ได้

แล้วเขายังไปออกรายการกับแม่บ้านสา บอกแม่บ้านว่าไม่เป็นไรๆ ซึ่งสำหรับแม่ มันไม่เป็นไรไม่ได้ เพราะเขาคือต้นเหตุ ไม่ว่าจะเบอร์ห้องลูกหรือเบอร์ห้องใคร เขาก็ไม่มีสิทธิเอาไปบอกคนอื่น

แม่ยืนยันจะไล่เอาผิดให้หมด นายสมมาตรต้องได้รับโทษหนักที่สุด แม่บ้านก็ต้องรับโทษด้วย รวมทั้งเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ก็ต้องมารับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยาด้วย

แม่ยังบอกอีกว่า เฟิร์นเป็นเสาหลักของบ้าน ทั้งค่าบ้านค่ารถเฟิร์นเป็นคนส่งเงินมาผ่อนทั้งหมด แล้วการสูญเสียครั้งนี้ อยากจะถามว่าแล้วใครจะรับผิดชอบกับครอบครัวของเรา

หลังเกิดเหตุทางเจ้าของอพาร์ตเมนต์ติดต่อมาขอช่วยเหลือทำบุญงานศพ 20,000 บาท โดยบอกว่าเป็นความประสงค์อยากจะช่วยเยียวยา แต่ทางครอบครัวไม่ขอรับ เพราะมันเทียบไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เขาบอกว่าทางอพาร์ตเมนต์มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่คนก่อเหตุคือคนที่พักอาศัย ไม่ใช่คนนอก ทางครอบครัวอาจจะต้องแยกกันระหว่างคนก่อเหตุ กับเจ้าของอาคาร เพราะเป็นคนละส่วนกัน

ทนายไพศาล ไล่เรียงในมุมกฎหมายทีละขั้นทีละตอนบอกว่า ในกรณีที่ป้าชี้ห้องให้คนก่อเหตุไปผิดห้อง ป้าไม่มีเจตนาอาจจะรอดในแง่อาญา แต่มีโทษทางแพ่งแน่นอน

ส่วนคนที่ไปเคาะห้อง มันมีความผิดตามข้อหาต่างๆ เท่าที่แจ้งไป ต้องเข้าใจตำรวจก่อนว่า มันแจ้งข้อหา  3 ข้อหาลหุโทษ ในเบื้องต้นได้ตามพยานหลักฐาน ประจักษ์พยานที่รวบรวมมา แล้วปล่อยตัวไปก่อน

แต่ตอนนี้พอสอบปากคำเพิ่มแล้ว ตอนนี้น่าจะเข้าข้อหาทำคนตายโดยไม่เจตนา เพราะเป็นสาเหตุโดยตรงให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย สามารถออกหมายจับได้เลย เพราะทราบว่าเจ้าของอพาร์ตเมนต์ไล่ออกจากห้องพักแล้ว สามารถออกหมายจับได้เลย เพราะมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ โหนกระแส