เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากอดีตครูที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ว่า ลักษณะดังกล่าวเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบหรือไม่ เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

นายประกอบ หมั่นนึก อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 4 ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ผู้ร้อง เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66 ได้มีอดีตข้าราชการครูหญิง วัย 69 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมัน มาให้ตนไปชี้แนวเขตที่ดินซึ่งอยู่ติดกัน ในเขตพื้นที่บ้านตาเหล็ง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เพื่อทำการรังวัดแล้วออกหลักฐานเป็นโฉนดที่ดิน จากที่ดินที่ไม่มีเอกสาร แต่ทำกินมานาน

โดยครูมีข้อตกลงกับตนว่า ที่ดินจะออกเป็นโฉนดใบเดียวก่อน แล้วจะโอนให้หลังได้รับเอกสารสิทธิ ตอนแรกไม่ตกลงเพราะกลัวถูกหลอก แต่หัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดินสาขาอำเภอลำปลายมาศ ยืนยันว่าหลังได้โฉนดจะแบ่งให้จำนวน 3 ไร่ทันที “ไม่ต้องกลัว” จึงยอมเซ็น หลักฐานให้รังวัด โดยอดีตครูเรียกค่าดำเนินการ 20,000 บาทต่อรองเหลือ 15,000 บาท วันที่ 7 พ.ย.66 ครูได้โฉนดเป็นชื่อของครู จึงไปทวงถามที่สำนักงานที่ดินลำปลายมาศ ปรากฏว่าชื่อโฉนดเป็นของครูคนเดียว ไม่มีการแบ่งเหมือนเจ้าหน้าที่อ้างตอนไปรังวัด สามีของอดีตครูยังเรียกเงินจำนวน 40,000 บาท แต่ไม่มีและคิดว่าผิดสัญญา จึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ลำปลายมาศ

หลังจากครูทราบข่าวว่าตนไปลงบันทึกประจำวันไว้ ครูไม่พอใจพร้อมบอกว่า ”อยากได้ที่ดินไปฟ้องเอา” วันที่ 19 ธ.ค.66 ตนได้รับหมายศาลจากศาลจังหวัดนางรอง ระบุฟ้องขับไล่ เรียกค่าเสียหายอีก 100,000 บาท

นายประกอบ เล่าด้วยว่า รู้สึกตกใจเพราะไม่เคยมีคดีมาก่อน ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่คิดว่าจะโดนหลอกแบบนี้ โดยเฉพาะหนังสือการรังวัดที่ดินระบุชัดเจนว่าตนเองเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมจึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รังวัด ที่ให้คำมั่นสัญญากับตนว่าจะแบ่งที่ออกเป็นแปลงๆ ถ้าไม่เซ็นก็จะออกโฉนดไม่ได้

ด้านพระสมนึก อายุ 71 ปี พระลูกวัดบ้านตาเหล็ง 1 ใน 4 คนที่ครูให้ไปทำลักษณะเดียวกัน เล่าว่า ที่ดินของหลวงตามี 5 ไร่ ครูให้ไปชี้แนวเขต ถ้าได้โฉนดมาจะแบ่งให้คืนเช่นเดียวกัน อดีตครูเรียกเงินไป 32,300 บาท อ้างว่าเป็นค่าโอนกลับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้โฉนดที่ดิน โดยมีชาวบ้านที่ถูกครูให้ไปชี้แนวเขตรวมแล้ว 4 คน ทุกคนยังไม่ได้โฉนด ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ ต้องรอดูจนกว่าโฉนดจะออก

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่ออดีตครู เพื่อถามถึงที่มาที่ไป ได้รับคำตอบจากครูว่า ”ไม่คุย” แล้วแต่ศาลจะพิจารณา