เมื่อวันที่ 14 ม.ค. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ สั่งการให้ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 เข้าจับกุม นายพีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ทำหน้าที่จัดหาเด็กค้ากาม โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนวิภาวดี

สืบเนื่องจากตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ รับแจ้งจากสายลับว่า นายพีรพัฒน์ มีพฤติการณ์ลักลอบนำเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ปี มาส่งให้กับลูกค้าเพื่อการค้าประเวณีตามสถานที่ต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ ตำรวจชุดจับกุมจึงวางแผนล่อซื้อประเวณี โดย นายพีรพัฒน์ แจ้งว่าค่าตัวเด็ก 2,000 บาท ต่อมาสายลับนัดหมายให้นำเหยื่อซึ่งเป็นเด็กชายมีอายุไม่เกิน 15 ปี มาส่งให้กับสายลับบริเวณห้องพักภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจะร่วมประเวณี นายพีรพัฒน์จึงได้พาด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นั่งรถแท็กซี่มาลงที่บริเวณทางเข้าโรงแรม และพา ด.ช.เอ มาพบกับสายลับก่อนจะส่งมอบเงิน 2,000 ให้กับนายพีรพัฒน์

ทันใดนั้นสายลับได้ส่งสัญญาณให้กับตำรวจชุดจับกุมทราบ ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นพบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้ออยู่โดยนายพีรพัฒน์ กำอยู่ที่มือ และพบโทรศัพท์มือถืออยู่ในกระเป๋ากางเกง จากการตรวจสอบพบข้อความการติดต่อซื้อประเวณีกับสายลับ

จากการสอบปากคำนายพีรพัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการพา ด.ช.เอ ไปส่งให้กับลูกค้าเพื่อการค้าประเวณี โดยเมื่อได้รับเงินแล้วจะแบ่งให้ด.ช.เอ 1,000 บาท และตนจะได้ 1,000 บาท

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา 6 ข้อหา 1.ค้ามนุษย์ โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี 2. เป็นธุระจัดหา 3. เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร 4. รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น 5. พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร 6. บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน ก่อนนำตัวส่ง สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ ด.ช.เอ อายุ 13 ปี ตำรวจได้ร่วมคัดแยกเหยื่อกับนักสังคมสงเคราะห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ผลการคัดแยกปรากฏว่า ด.ช.เอ เป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จึงได้ส่งตัวไปรับการคุ้มครองยังสถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด (บ้านภูมิเวท) ต่อไป