กรณีผู้ปกครองเด็กชายวัย 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนผ่านสื่อว่า ครูไม่ให้หลานชายเข้าไปโรงเรียน เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และอยากให้ผู้ปกครองเด็กย้ายไปเรียนที่อื่น โดยตาเด็กได้นำหนังสือที่ครูเขียนรายงานไปยัง ผอ.โรงเรียน มาเป็นหลักฐานการร้องเรียน ซึ่งในหนังสือระบุชัดเจนว่า เด็กชาย 9 ขวบ มีพฤติกรรมอนาจารสุนัขของโรงเรียน

ขณะที่เด็กชาย 9 ขวบ ยืนยันว่าไม่ได้กระทำ สาเหตุที่ยอมรับเพราะกลัวครูจะทำโทษ เพราะถูกตีมาแล้ว ซึ่งตรงกับตาของเด็ก ที่ระบุว่าเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก ไม่มีพฤติกรรมในลักษณะแบบนั้น หลานยังเป็นปกติทุกอย่างนั้น

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ครูหัวหน้าแผนก ได้ออกมากล่าวต่อหน้าผู้ปกครองเด็ก ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากคำบอกเล่าของเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ซึ่งทางโรงเรียนยังไม่ได้มีการสอบถามตัวเด็กหรือเพื่อนเด็กแต่อย่างใด ตนมีความวิตกกังวล จึงทำหนังสือถึง ผอ. เพื่อต้องการสอบถามหาข้อเท็จจริง ซึ่งหนังสือฉบับนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ เมื่อทางผู้ปกครองทราบข่าวจึงมาขอหนังสือฉบับดังกล่าว เพื่อเอาไปเป็นหลักฐานในการไปพบแพทย์ ทั้งผู้ปกครองเด็กก็อยากจะตรวจสอบหรือรักษาอาการของเด็ก

ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ออกมาระบุเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า หนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือภายในโรงเรียน จะเอาออกไปข้างนอกโรงเรียนไม่ได้ เป็นเรื่องภายในที่ยังไม่ยุติ เพราะยังไม่มีการสืบสวน ทั้งนี้ ต้องขอโทษตากับยายที่มีหนังสือฉบับนี้เกิดขึ้น ตนยังไม่เชื่อว่าเด็กอายุแค่นี้จะทำได้ เมื่อคุณครูรายงานมาตนก็รับทราบ และจะต้องมีขั้นตอนในการสืบ สอบถามทั้งเพื่อนนักเรียน ตัวนักเรียน รวมถึงครูประจำชั้น ผู้ปกครองเด็ก แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง เราต้องพาเด็กไปรักษา ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเจตนาที่จะทำให้เด็กต้องได้รับความเสียหายโดยเฉพาะด้านจิตใจ.