เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจบังคับขู่เข็ญให้นายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก รับสารภาพในคดีฆาตกรรม น.ส.บัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ ว่า หลังจากสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ในวันนี้จะส่งสำนวนในคดีที่มีข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ไต่สวนเพื่อพิจารณาชี้มูลความผิด พร้อมให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วย

โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ดำเนินการล่าช้า และไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกันอย่างแน่นอน แต่ความผิดในฐานอื่นนั้น ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานจะต้องดำเนินการอย่างรอบด้าน ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการสอบปากคำลุงเปี๊ยก เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะลุงเปี๊ยกอยู่ระหว่างการบำบัดอาการสุราเรื้อรังที่โรงพยาบาล แต่หากสอบปากลุงเปี๊ยกแล้ว พบพยานหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาอื่น ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ และขออย่าเร่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนถูกต้องที่สุด แต่หากพบว่าลุงเปี๊ยกให้การเท็จ ก็จะเข้าข่ายกระทำความผิดด้วยเช่นกัน

ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างกลุ่มแก๊งเยาวชนกวนเมืองทั่วประเทศให้ลดลงภายใน 1 เดือน โดยในพื้นที่จังหวัดสระแก้วนั้น ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ระดมกวาดล้าง จัดทำบันทึกประวัติและพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งเยาวชนในพื้นที่ทั้งหมด และให้กวดขันกับเยาวชนอายุ 10-15 ปี ที่ออกนอกบ้านหลัง 4 ทุ่ม โดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วย หากพบจะต้องเชิญมาทำประวัติและเชิญผู้ปกครองสอบถาม และได้ให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เช่น จังหวัดเชียงใหม่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ตั้งกลุ่มกวนเมือง หรือกลุ่มแก๊งในพื้นที่นนทบุรีและสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อาจไม่เพียงพอ

ส่วนคดีความที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเด็ก 5 คน ในจังหวัดสระแก้วนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ล่าสุดมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 5 คดี แต่หากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งหมด 20 คนนั้น มีทั้งหมด 8 คดี ซึ่งได้รับแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว โดยจะเร่งรัดในการทำคดีทั้งหมด