เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่วัดพุทธวนาราม หรือ วัดวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม เนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชน โดยตั้งแต่เช้า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศนับหมื่นคน แห่เดินทางมาร่วมพิธีมุทิตาสักการะในโอกาสเจริญอายุวัฒนมงคล 45 ปี พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. หรือ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปญฺโญ ประธานสงฆ์ วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งถือเป็นงานบุญประจำปีที่ยิ่งใหญ่ จนกระทั่งช่วงบ่าย มีประชาชนทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องจนล้นวัด และทะลุออกไปนอกกำแพงวัดเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องทำการจัดแถวเพื่อความเป็นระเบียบ และให้พี่น้องประชาชนได้เข้าคิวมากราบพระอาจารย์สุริยันต์ และรับสายสิญจน์ที่ผ่านการปลุกเสกกลับบ้านเป็นที่ระลึก

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. ทางวัดแจ้งให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีนับหมื่นคน เข้าแถวเพื่อรับทานจากพระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (สุริยันต์ โฆสปญฺโญ) และคณะเจ้าภาพ โดยได้ให้ลูกศิษย์วัดปิดประตู และขนเงินสด 2 ล้านบาท ใส่ลังกระดาษนับสิบลังมาไว้ที่ประตูทางออก ซึ่งทางวัดได้แลกธนบัตรร้อยบาทใส่ซองแดง เพื่อสะดวกในการแจก โดยหลวงพ่อและบรรดาลูกศิษย์ ได้มายืนแจกที่ประตูทางเข้า-ออกของโบสถ์ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ทยอยรับเงินทานกันอย่าง ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ถึงจะแจกแล้วเสร็จครบ 2 ล้านบาท

พระครูภาวนาชยานุสิฐ วิ. ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม กล่าวว่า การแจกทานจำนวนมากถึง 2 ล้านบาทนั้น ถือเป็นการบริจาคเงินให้กับประชาชนที่มีจิตศรัทธามาร่วมทำบุญกุศลที่วัด ซึ่งบุญนี้ก็ได้นำไปต่อยอดให้กับโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล ผู้ยากไร้ทั้งหลาย และสถานที่ขาดแคลน ถือเป็นการทำบุญช่วยเหลือสังคมด้วยกัน จึงอยากตอบแทนลูกศิษย์และประชาชนด้วยการแจกเงินขวัญถุง ซึ่งเงินที่แจกนี้ถือเป็นกำลังใจให้ผู้ได้รับ เสริมพลังให้มุ่งมั่นประกอบอาชีพและกิจการต่าง ๆ ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

ทั้งนี้ วัดพุทธวนาราม หรือ วัดป่าวังน้ำเย็น ถือเป็นอันซีน (Unseen) ของจังหวัดมหาสารคาม จุดเด่นที่พลาดไม่ได้ก็คือ ประติมากรรมพุทธรูปที่สวยสดงดงามเรียงรายอยู่ทั่ววัด และองค์ท้าวเวสสุวรรณที่ตั้งเด่นให้ประชาชนได้สักการะ และไฮไลต์ที่สำคัญ คือ โบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ตะเคียนทองทั้งหลังใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ถึง 2-3 คนโอบ จำนวน 32 ต้นอีกด้วย โดยภายในประดิษฐานหลวงพ่อองค์เทพประธานพร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนาคปรก แกะสลักจากไม้สักทองทั้งองค์ ความสูงกว่า 9 เมตร มีศาลา 3 ฤดู ที่เป็นไม้สักขนาดใหญ่ สร้างจากช่างไม้สุดยอดฝีมือระดับประเทศ และงามวิจิตรชนิดหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้ ถือเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพบเห็นต่างตื่นตาตื่นใจกับความอลังการเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ในช่วงหยุดยาวเทศกาลต่างๆ จะมีประชาชนเดินทางมาเที่ยวชมวัดและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดตลอดทั้งวันนับหมื่นคน กระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้กับจังหวัดมหาสารคามเป็นอย่างมาก