เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการจับกุมดำเนินคดีกับตะวันและพวก บีบแตรขวางขบวนเสด็จ ว่า จากแนวทางการสืบสวนและการตั้งข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม แต่ต้องดำเนินการรอบคอบจนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดว่า มีบุคคลใดอยู่เบื้องหลังชัดเจน แต่ย้ำว่าได้กำชับให้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ดูความเชื่อมโยงทุกมิติ ไม่ต้องเร่งรีบจนทำให้ขบวนการยุติธรรมเสียหาย 

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมีความเห็นต่างในเรื่องดังกล่าว จะทำให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตำรวจจะใช้พยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเท่านั้น รวมถึงชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางคดี จนถูกสังคมโจมตีได้ ในส่วนของมาตรการอารักขาดูแลถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ อย่างแรกเรื่องการจัดขบวนอารักขา เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชองครักษ์

ส่วนเรื่องเส้นทางการจราจรเป็นอำนาจหน้าที่ของ ตร. ซึ่งหน่วยงานทั้งหมด จะมีการประชุมและจะมีการแถลงแผนร่วมกันทุกครั้งที่จะมีขบวนเสด็จ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการวิ่งเข้ามาในขบวนเสด็จ หรือวิ่งคู่ตัดเข้ามาในขบวนเสด็จ ซึ่งครั้งนี้ประชาชนยังสามารถสัญจรในเลนซ้ายร่วมกัน โดยไม่มีการปิดจราจร อีกทั้งขบวนปิดท้ายขบวนเสด็จ จะมีการติดตั้งกล้องหลังเพื่อดูความเคลื่อนไหวว่าประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ ซึ่งในปัจจุปันขบวนเสด็จ ได้มีการปรับให้สอดคล้องกับการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน ไม่ให้ได้รับผลกระทบ

“การถวายความปลอดภัยเป็นหน้าที่สูงสุดของตำรวจ ต้องทำด้วยชีวิต ส่วนในเรื่องข้อกฎหมาย จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุดในเรื่องขบวนเสด็จ ว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เนื่องจากเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ความเห็นต่างสามารถทำได้แต่ต้องไม่แตกแยก แต่ละฝ่ายต้องทำความเข้าใจกัน ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีใครไม่จงรักภักดี ดังนั้นสิ่งสำคัญคือจะทำยังไงให้เข้าใจเรื่องของสถาบันและประวัติศาสตร์ชาติไทย อยากให้ทุกคนเข้าใจและไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร โดยเฉพาะการเมือง” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว