เมื่อวันที่ 15 ก.พ. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี คุณเปิ้ล เมียหลวงของนายตำรวจยศจ่า ที่ไปร้องกับเพจ “เป็นหนึ่ง” หลังสามีไปมีเมียน้อย ที่เคยเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิทตัวเองมาก่อน จนเมียน้อยตั้งท้อง มีลูก และตามราวี เยาะเย้ยเธอสารพัด เมียหลวงทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่มีทะเบียนสมรสอยู่
คุณเปิ้ล เล่าว่า แต่งงาน จดทะเบียน มีลูกกับสามียศจ่า สังกัด สน.พลับพลาไชย 2 ที่ผ่านมามีพฤติกรรมเจ้าชู้มาตลอด แต่เวลาจับได้เขาจะเลิก แต่กับผู้หญิงคนนี้ เขาไปเจอในงานศพของเพื่อนสนิท ซึ่งเพื่อนสนิทของสามีจบชีวิตตัวเองไม่ทราบสาเหตุ มาทราบภายหลังว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียน้อยของผู้ตาย สามีกลับเอาเมียน้อยของเพื่อนตัวเอง มาเป็นเมียน้อยของตัวเองอีกที
จับได้ครั้งแรก ผู้หญิงที่เป็นชู้พยายามมาแสดงตัว ด้วยการไลน์มาหาเมียหลวง ขอคีย์การ์ดห้องสามี พอตนไปถามสามีเขาก็เฉไฉ แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่ามีเมียน้อย และได้มีการเคลียร์ไป 1 รอบ ทำ MOU ตกลงว่าจะเลิกยุ่งกัน
แต่พอหายไป 2-3 เดือน เขาก็กลับมาอีก มาเคาะถึงห้องตน มาบอกว่าท้องกับสามีตน ให้สามีตนรับผิดชอบ ดูแลค่าเลี้ยงดู และต้องพาไปฝากท้อง พาไปคลอด แล้วยังพบว่ามีภาพที่สามีตัวเอง ไปผูกข้อไม้ข้อมือ แต่งงานออกหน้ากับเขา มีแขกเหรื่อมาร่วมงานด้วยตลอดเวลาต้องเจอสารพัดความกดดัน จากตัวเมียน้อยที่มาด่าทอ กระแนะกระแหน ด่าทั้งตน ทั้งลูกสาวตน ทั้งต่อหน้า ทั้งลับหลัง แล้วให้สามีมาด่าตน ตอนสามีด่าก็ยังอัดคลิปส่งให้เมียน้อย แล้วเมียน้อยก็เอาคลิปนั้นส่งกลับมาเยาะเย้ยตนอีกที วันที่เมียน้อยไปคลอด สามีก็พาไปคลอดที่โรงพยาบาลที่ตนทำงานอยู่ จนเพื่อนที่โรงพยาบาลมาถามว่าสามีพาใครมาคลอดลูก จนเขารู้กันหมดว่าสามีตนมีเมียน้อย
สามียังพาเมียน้อยเข้ามานอนในบ้าน เมียน้อยก็เซลฟี่ว่ามานอนในห้องนอนของตน บนเตียงของตน ห่มผ้าห่มของตน ส่งข้อความเยาะเย้ยไม่หยุด เวลาลูกสาวตนป่วยก็ส่งข้อความมา บอกว่าจะส่งพวงหรีดไปให้ กับเด็กเขาก็ไม่เว้น สามีทั้งรักทั้งหลงเมียน้อยคนนี้ เขาเคยบอกว่าจะเลิกยุ่งกับเมียน้อยคนนี้ ตนก็เลยโพสต์รูปครอบครัว พ่อแม่ลูกในเฟซบุ๊กของตัวเอง ปรากฏว่าโพสต์ไปไม่กี่นาที สามีก็เปิดประตูเข้ามาด่าเรา ว่าเราโพสต์ทำไม ทำให้เขาเดือดร้อน เขาถุยน้ำลายใส่หน้าภรรยา ทั้งยังบอกว่า จะไล่เราออกจากบ้าน ให้ไปเปลี่ยนนามสกุล ไม่ให้ใช้นามสกุลของสามี
ขณะที่ พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 ผู้บังคับบัญชาของสามี เผยว่า เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564 ตั้งแต่ก่อนตนมารับตำแหน่ง ซึ่งทราบว่าเขามีปัญหายืดเยื้อกันมา ผู้บังคับบัญชาของเขา (สารวัตร) ก็พยายามจะเรียกมาพูดคุย แก้ไขเรื่อยมา มีการให้ยืมเงินไปจ่ายให้เมียน้อย ทำข้อตกลงกันว่าจะยุติกัน แต่ก็ไม่ได้ยุติ
ล่าสุด ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อให้เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้ามีความเสื่อมเสียต่อองค์กรตำรวจ ก็ต้องมีโทษตามระเบียบ ส่วนถามว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ก็ต้องดูตามข้อเท็จจริง แต่ถ้ามีเมียอยู่แล้ว แล้วไปมีภรรยาอื่นอีก อันนี้อาจจะมีโทษเพียงกักขัง
ขณะที่ทนายแก้ว บอกว่า เรื่องการฟ้องชู้ เรียกค่าเสียหาย ตนจะช่วยฟ้องให้เอง จะเรียกค่าเสียหายหลักล้าน แต่การจะฟ้องหย่าสามีหรือไม่ อย่างไร ไม่อยากให้เปิ้ลใช้อารมณ์ เพราะหากหย่าไปตอนนี้ สิทธิประโยชน์ในเรื่องสวัสดิการข้าราชการ ที่เปิ้ลและลูกจะได้รับมันจะหายไป ตรงนี้ต้องค่อยๆ คิด แนะนำให้ทำหนังสือไปยื่นผู้กำกับ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของสามี เพื่อรักษาประโยชน์ของตัวเองด้วย
