เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ 18 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.จีรศักดิ์ แอบแฝง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวชาวจีน ถูกล่อลวงเข้าไปข่มขืนภายในป่า ด้านหลังสนามกอล์ฟ ใกล้กับถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2081 (ถนนสายโปโล-บ้านบึง) หมู่ 9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย ตำรวจชุดสืบสวน และ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 (ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา)

ในที่เกิดเหตุ เป็นป่าหญ้าติดกับไร่มันสำปะหลัง ห่างจากถนนทางหลวงชนบทหมาย 2801 ประมาณ 400 เมตร โดยรอบ ๆ บริเวณเป็นที่มืดสงัด ไม่มีแสงไฟ อีกทั้งพบว่าบริเวณป่าหญ้ารอบ ๆ ด้าน ถูกไฟไหม้เป็นวงกว้างกว่า 70-80 เมตร ในเบื้องต้น พบหญิงชาวต่างชาติหน้าตาดี ชื่อว่า น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน พร้อมกับ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี น้องชายสัญชาติเดียวกัน ทั้งคู่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหญิงชาวจีนอยู่ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง ข้อมือทั้งสองข้างมีร่องรอยถูกมัดด้วยเชือก อีกทั้งยังมีอาการวิตกกังวล หวาดกลัวตลอดเวลา

ต่อมาตำรวจท่องเที่ยวมีการประสานล่ามชาวจีนเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อพูดคุยและถ่ายทอดข้อความจากหญิงสาวจีนรายนี้ จนทราบความว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. (18 ก.พ. 67) เธอกับน้องชายยืนโบกรถ อยู่บริเวณหน้าสวนไทย ริมถนนสาย 331 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กม. เพื่อหารถเดินทางกลับพัทยา จากนั้นได้มี ชายชาวไทย 2 คน ขี่ จยย. 2 คัน ผ่านมาพร้อมกับอาสาจะไปส่ง เธอกับน้องชายยอมขึ้นนั่งซ้อนท้ายไปยังจุดหมายคนละคัน

ระหว่างเดินทางเริ่มเห็นความผิดปกติ จู่ ๆ จยย. ของเธอกับน้องชายที่นั่งซ้อนท้ายมาเกิดคลาดกัน จากนั้น เธอก็ถูกชายไทยที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย พาเลี้ยวเข้าป่ามาถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะบังคับให้ลงจากรถ มีการใช้เชือกมัดมือทั้ง 2 ข้าง จากนั้นก็เริ่มลวนลามจับกดลงกับป่าหญ้า และพยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ อีกฝ่ายจึงนำครีมโลชั่นมาชโลมทาทั่วตัวของตน โดยเชื่อว่าต้องการทำลายหลักฐานลายนิ้วมือ จากนั้นก็นำน้ำมันมาราดป่าหญ้ารอบ ๆ บริเวณ ก่อนจะจุดไฟเผาเพื่อฆ่าปิดปาก เมื่อคนร้ายหนีไปแล้ว ตนยังนั่งอยู่ท่ามกลางกองไฟ ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวมาก จึงพยายามใช้ไฟลนเผาเชือกที่มัดข้อมือออกจนเชือกหลุดขาด จากนั้นก็พยายามติดต่อหาน้องชายประสานตำรวจมาช่วยเหลือดังกล่าว

คดีนี้ พ.ต.ท.จีรศักดิ์ แอบแฝง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ และ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 (ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา) ร่วมกันสอบปากคำ น.ส.เอ นานหลายชั่วโมง เบื้องต้นพบข้อพิรุธหลายอย่างในการเล่าเรื่องต้นสายปลายเหตุ แต่เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย จึงได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ. ส่วนข้อพิรุธที่พบระหว่างที่มีการพูดคุย ผู้เสียหายพูดจาวกไปวนมา ขณะที่ร่างกายของผู้เสียหายไม่พบเสื้อผ้ามีร่องรอยเปรอะเปื้อน หรือ ร่องรอยการต่อสู้ แต่อย่างใด จะมีก็เพียงรอยเขียวช้ำบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลตรวจร่างกายจาก รพ. อย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงการตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้ายในร่างกายของผู้เสียหายด้วย ขณะที่ฝ่ายสืบสวนกำลังลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่าง ๆ ที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป.