เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 เม.ย. พ.ต.อ.ฉลาด พลนากาน ผกก.สภ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ที่หมู่ที่ 10 ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยคลองราง ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 10 ตำบลนาพญา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงขนาดใหญ่ในเนื้อที่หลายสิบไร่ ห่างจากตัวบ้านเล็กน้อยพบว่ามีบ่อน้ำและมีสังกะสีปิดอยู่ที่ปากบ่อ เมื่อเปิดสังกะสีและมองลงไปในบ่อจึงพบร่างที่น่าสยดสยอง อยู่จำนวน 2 คนด้วยกัน
เมื่อนำศพของคนทั้งคู่ขึ้นมา พบร่างคือนายเจื้อง เจียมวิจิตร อายุ 85 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ศพที่ 2 ชื่อนางสาวร้วน เจียมวิจิตร อายุ 89 ปี เป็นพี่สาวของนายเจื้อง จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นมีรอยเลือดอยู่ทั่วร่างกายของศพทั้งสอง และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วันที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบภายในบริเวณบ้านพบว่า มีร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สินจำนวนมาก และยังพบรอยเลือดจากบริเวณบ้านไปยังบ่อน้ำดังกล่าว จากการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์คนแรกเป็นผู้ชาย (ขอสงวนชื่อ) ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดทางสายเลือดกับผู้ตายทั้ง 2 คนทราบว่า ในช่วงเที่ยงของวันนี้ได้เดินทางเพื่อมาเยี่ยมผู้ตายทั้งสอง แต่ไม่พบ อีกทั้งเห็นรอยเลือดและมีกลิ่นเหม็น จึงได้เดินค้นหากลิ่นเหม็นดังกล่าวนำไปยังบ่อน้ำข้างบ้าน พบว่ามีสังกะสีปิดอยู่ปากบ่อจึงเปิดดู พบว่ามีศพอยู่ในบ่อ จึงได้รีบแจ้งตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ
จากการสันนิษฐานเบื้องต้น ตำรวจ สภ.หลังสวน คาดว่าในช่วงวันที่ 13 เม.ย. หรือ 14 เม.ย. ในขณะที่คนในหมู่บ้านออกไปเล่นสงกรานต์กันนอกหมู่บ้านแทบทั้งหมด คงเหลือเพียงตายายสองพี่น้องที่อยู่ภายในบ้านแต่เพียงลำพัง คนร้ายน่าจะมีประมาณ 1-2 คนเข้ามาในบ้านและพยายามถามหาทรัพย์สินจาก 2 ตายาย แต่สองตายายปฏิเสธว่า ไม่มีทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างใด คนร้ายจึงได้ใช้อาวุธ ซึ่งยังไม่ทราบชนิด เนื่องจากศพยังไม่สามารถตรวจบาดแผลได้ เพราะมีความเน่าเปื่อยเกิดขึ้นแล้ว เมื่อ 2 ตายายเสียชีวิต จึงได้ลากศพไปที่บ่อน้ำ และโยนทิ้งลงไปในบ่อน้ำเพื่ออำพราง และซ่อนเร้นศพ หลังจากนั้นได้ใช้สังกะสีปิดปากบ่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นที่สังเกตของผู้ที่ผ่านไปผ่านมา แล้วหลบหนีไป
ขณะที่แหล่งข่าวกล่าวว่า สองตายายเป็นพี่กับน้องกันมีบุตร และหลานหลายคน แต่แยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว นายเจื้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินที่ดินจำนวนมาก แต่มักจะเป็นคนที่หัวหมอไม่ยอมใครง่ายๆ รวมถึงเวลามีเพื่อนบ้านปลูกต้นไม้เข้ามาติดเขตแดนที่ดินของตนเอง ก็มักจะไม่ยินยอม จนมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เนืองๆ
นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ 2 พี่น้องได้ขายที่ดิน คาดว่าน่าจะมีเงินหลายล้านบาท และได้นำไปฝากธนาคาร แต่คนร้ายคิดว่าพี่น้องสองตายายคงเก็บเงินจากการขายที่ดินไว้ที่บ้าน อาศัยจังหวะวันสงกรานต์ไม่มีใครอยู่ในหมู่บ้านมากนัก จึงได้เข้ามาเพื่อที่จะชิงเงินจาก 2 พี่น้องตายาย แต่สองตายายไม่ยอมจึงตัดสินใจลงมือฆ่า แล้วรื้อค้นทรัพย์สินและอาจได้ทรัพย์สินมีค่าไปจำนวนหนึ่ง
ประเด็นถัดมาอาจจะเป็นเรื่องระหองระแหงที่เคยมีมาก่อนกับเพื่อนบ้านเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินที่ดิน ซึ่งทำให้เพื่อนบ้านโกรธแค้นและลงมือสังหารพร้อมทั้งทำเป็นค้นบ้านเพื่ออำพรางคดี ส่วนประเด็นสุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องของคนใกล้ชิดที่จะได้รับประโยชน์ เมื่อ 2 ตายายนี้เสียชีวิต เมื่อเข้ามาขอแบ่งเงินจากการขายที่ดินและไม่ได้ จึงตัดสินใจทำร้ายร่างกายแต่มือหนักจนทำให้ 2 ตายายเสียชีวิต จึงได้อำพรางคดีด้วยการทำเป็นรื้อค้นบ้านและอำพรางศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป