เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะกำกับดูแลกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า หลักหมุด ส.ป.ก. เพื่อออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ที่เข้าไปอยู่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 42 แปลง 2,900 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าธรรมชาติสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ ส่วนเรื่องแนวเขตเป็นองค์ประกอบ เพราะพื้นที่ที่ ส.ป.ก. จะมารังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิจะต้องเป็นป่าเสื่อมโทรม ที่สำคัญบริเวณดังกล่าว ถึงไม่อยู่ในพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ก็ออกไม่ได้ นอกจากนั้น เมื่อมีการอ่านแปลภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังและตรวสอบยังพบว่า พื้นที่ที่ ส.ป.ก. ไปปักหมุด มันไปซ้อนทับกับแปลงปลูกป่าปี 2511, 2513, 2515 ของหน่วยจัดการต้นน้ำลำตะคอง แปลงปลูกป่าบางแปลงมีคำพิพากษาลงโทษผู้รุกมาแล้ว และในคำพิพากษาก็ปรากฏความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ไปเบิกความไว้ว่าเป็นป่าสมบูรณ์ ส.ป.ก. ก็จะไม่รังวัดออกเอกสารสิทธิ 4-01 ดังนั้นบริเวณดังกล่าว ชัดเจนว่า ส.ป.ก. น่าจะออกโดยคลาดเคลื่อน และแม้ ส.ป.ก. จะอ้างว่าแนวเขตของ ส.ป.ก. มาจากกฤษฎีกา มาจากการจำแนก แต่ก็ทำภายหลังจากประกาศอุทยานแห่งชาติ

นายชีวะภาพ กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ของการปักหมุดของ ส.ป.ก. ก็เข้าใจได้ว่าต้องการที่ดิน แต่เชื่อว่าออกโดยคลาดเคลื่อน ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลัง ก็อยู่ที่การขยายผล เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ที่อออกเอกสารสิทธิ ต้องชี้แจงว่าทำไมถึงไปออกโฉนดให้ในป่าธรรมชาติสมบูรณ์ และเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของสัตว์ป่า จากนี้ ทส. จะขยายผลไปทั่วประเทศ โดยขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ เพราะ ส.ป.ก. อยู่ติดแนวเขตป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ถ้าเจอว่ามีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ หรือออกซ้อน ก็ต้องประสาน ส.ป.ก. ให้เพิกถอน หรือต้องไปแจ้งความ เพราะประเมินแล้วน่าจะมีอีกหลายพื้นที่ ต้องรีบดำเนินการ ไม่อย่างนั้น ชาวบ้านที่ถือ ส.ป.ก.4-01 ก็จะมาอ้างสิทธิ เอาเครื่องจักรหนักไปทำลายต้นไม้ ทำความเสียหายให้กับป่าไม้ ซึ่งยากที่จะเอาคืนกลับมาได้เหมือนเดิม.