เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะทูตานุทูต 49 ประเทศ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นายนาเคส สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย และนายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 คณะผู้แทนจากสาธารณรัฐอินเดีย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชาชนเข้าร่วมงาน

โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ออกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มายังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีนายราเชนทร์ วิศวนาถ อัรเลกัร ผู้ว่าการรัฐพิหาร เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มอบให้แก่นายกรัฐมนตรี นายวิเรนทร์ กุมาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและเพิ่มพลังทางสังคม เป็นผู้อัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร มอบให้แก่รองนายกรัฐมนตรี และนายนาเคส สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย เป็นผู้อัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระโมคคัลลานะ มอบให้แก่ รมว.วัฒนธรรม เป็นผู้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป โดยมี สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายพวงมาลัยและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และมีพิธีเจริญชัยมงคลคาถาตลอดพิธี ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางการเคลื่อนริ้วขบวน พุทธศาสนิกชนได้นั่งแถวรอรับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ พร้อมก้มลงกราบสักการะตลอดเส้นทางเพื่อความเป็นสิริมงคล

“รัฐบาลไทยร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย ดำเนินงานโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ตามโครงการธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ จากมหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขง จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในระหว่างวันที่ 22 ก.พ. ถึงวันที่ 19 มี.ค. 2567 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ อุบลราชธานี และกระบี่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ศาสนิกชนชาวไทย และประเทศเพื่อนบ้าน จะได้ร่วมสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ที่เป็นองค์ดั้งเดิม ที่ค้นพบในสถูปโบราณ เมืองกบิลพัสดุ์ และเมืองสาญจี จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว“ นายชัย กล่าว

นายชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จะเปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.-3 มี.ค. เวลา 09.00-20.00 น. ในส่วนภูมิภาค อัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาคใน 3 จังหวัด ให้ประชาชนได้เข้าสักการบูชา เวลา 09.00-20.00 น. ภาคเหนือ วันที่ 5-8 มีนาคม ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 10-13 มี.ค. ณ วัดมหาวนาราม จ.อุบลราชธานี และภาคใต้ วันที่ 15-18 มี.ค. ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ โดยทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป.