เมื่อวันที่ 8 มี.ค. จากกรณีนายชูชาติ ชายชาวจังหวัดอุทัยธานี วัย 70 ปี ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดช้ำใจ หลังโดนแฟนสาววัย 19 ปี ที่เพิ่งผูกข้อมืออยู่กินกันได้แค่เพียง 1 เดือน ตีตัวออกห่างก่อนปันใจไปให้ชายอื่น เผยหมดค่าสินสอด ค่าอื่นๆ อีกนับ 2 แสนบาท โดย นายชูชาติ เปิดเผยว่า ตอนนี้เสียทั้งเงินเสียทั้งใจมากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองในครั้งนี้ ตนเองนั้นได้รู้จักกับ น.ส.เอ ผ่านเพื่อนๆ ซึ่งแนะนำให้ได้รู้จัก จากนั้นก็โทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันมาอยู่ได้สักระยะ ซึ่งก็ทราบว่า น.ส.เอ นั้น มีลูกติดแล้ว 1 คน แต่ก็ตัดสินใจทำพิธีสู่ขอผูกแขนกันตามประเพณีอยู่กินกัน เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 มูลค่าสินสอดนั้นเป็นเงินสด 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท จากนั้นตนก็ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของ น.ส.เอ ที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี

นายชูชาติ เปิดเผยต่ออีกว่า ระหว่างที่อยู่กับ น.ส.เอ นั้น ทางครอบครัวของ น.ส.เอ ก็พูดจากับตนเองดีไม่มีอะไร โดย น.ส.เอ นั้นก็ได้ขอให้ตนช่วยลงทุนเลี้ยงหมู 50 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท เลี้ยงไก่ 500 ตัว เป็นเงินประมาณ 5,000 กว่าบาท และก่อนหน้านี้ก็ได้ซื้อมือถือไอโฟน 13 ราคา 20,000 บาทไปให้อีกด้วย แต่หลังจากที่พิธีผูกแขนอยู่กินกันมาได้แค่เพียง 5 วัน แต่หลับนอนด้วยกันจริงๆ แค่ 3 วัน น.ส.เอ ก็เริ่มเปลี่ยนไป มักแอบหนีไปเที่ยว ไม่กลับบ้าน บางวันกลับมาอีกทีก็เช้าของอีกวัน

ซึ่งทำพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด ตนเองต้องโทรฯ ตามอยู่บ่อยครั้ง จนมาสุดท้ายที่โทรศัพท์ไปตามก็มีผู้ชายรับโทรศัพท์ น.ส.เอ พอตนเองถามว่าเป็นใคร เสียงผู้ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า เป็นแฟนของ น.ส.เอ ทำให้ตนนั้นต้องน้ำตาตกใน เพราะตอนที่ตกลงปลงใจผูกแขนกับ น.ส.เอ นั้น ก็หวังจะช่วยกันทำมาหากิน และหวังฝากผีฝากไข้กันยามเริ่มแก่ชรา แต่กลับมาถูกเด็กสาวรุ่นหลานหลอกให้ช้ำใจ ซ้ำยังต้องมาเสียเงินไปรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท อีกด้วย พอคิดไตร่ตรองเหตุการณ์ก็มั่นใจว่า แบบนี้น่าจะเป็นการหลอกลวงกัน ซึ่งก็อยากได้เงินที่เสียไปก้อนนี้คืนมา เพราะมันเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของตนเองเหมือนกัน

ด้าน นายธีระพล อายุ 54 ปี พ่อของ น.ส.เอ อายุ 19 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ของปัญหานั้นน่าจะเริ่มจากวันที่ลูกสาวนั้นไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน ซึ่งตนเองได้สอบถามเรื่องนี้มาจาก นายชูชาติ ซึ่งที่ผ่านมานั้นลูกสาวของตนเองก็ได้เป็นนักเรียนดีเด่น ซึ่งสาเหตุที่มาตกลงปลงใจผูกแขนกับ คุณตาวัย 70 ปี คือนายชูชาติ คนนี้ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ รู้แค่เพียงว่า ทั้งคู่ได้ไปรู้จักกันที่บ้านตาเคลิ้ม จนกระทั่งมาผูกแขนกันดังกล่าว ซึ่งวันที่ทำพิธีผูกแขนกันนั้นตนเองก็อยู่ด้วย ค่าผูกแขนวันนั้นก็เป็นเงินสด 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท

หลังจากนั้น นายชูชาติ ก็มากินนอนอยู่ที่บ้านของตนเองซึ่งก็จำไม่ได้ว่ากี่คืน หลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องเลยว่าทั้ง 2 คนมีเรื่องราวอะไรกัน และจนตอนนี้ลูกสาวก็ยังไม่กลับมาที่บ้านเลย ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปตามลูกกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิมได้อย่างไร เพราะอีกใจก็กลัวว่าถ้าตามมากๆ ลูกจะเตลิดหนีหายไปไกล ส่วนเรื่องที่ลูกมีแฟนใหม่หรือไม่นั้นเรื่องนี้ไม่ทราบเลย

“ปกติแล้วคนเรานั้น ตรงนี้ตนไม่ได้กล่าวว่า แต่อายุต้องดูมาก่อน จะมาผูกแขนกับเด็กรุ่นนี้ เด็กจะอยู่กับเราจริงๆ มั้ย แต่ตนเองก็ไม่อยากพูด เพราะเขาก็ผ่านโลกมาก่อน ส่วนเรื่องฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ ที่นายชูชาติ มาลงทุนไว้นั้นก็อยากให้มาพูดคุยกัน เพราะตนเองก็เลี้ยงดูคนเดียวไม่ไหว ทรัพย์สินส่วนไหนที่คืนได้ก็พร้อมที่จะคืนให้เช่นกัน” นายธีระพล กล่าว