เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 67 ที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง และไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อมอบนโยบายกับหน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โอกาสนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมด้วย

ในการนี้จุดสนใจอย่างจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าและ PM2.5 ในพื้นที่ โดยพบว่าขณะนี้มีลมจากตะวันตกพัดพาฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ 5 อำเภอที่ติดแนวชายแดน คือ อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ และเวียงแหง มีค่าฝุ่นสูงในทุกๆ วัน และจะเบาบางลงในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นลักษณะนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่การเผาก็ยังสามารถควบคุมได้ และได้มีการงดเว้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งหมดในห้วงนี้ และปิดป่าอนุรักษ์ 19 ป่า ส่วนการลักลอบเผาได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเร็วและดับให้ได้ภายใน 1 วัน รวมถึงการตั้งรางวัลนำจับผู้กระทำความผิดคดีละ 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีการใช้ปฏิบัติการฝนหลวงบินเจาะช่องระบายอากาศเพื่อให้ฝุ่นในพื้นที่พัดขึ้นไปได้

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของประเทศในวันนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในภาคอีสานภาพรวมยังเกินค่ามาตรฐานแต่ก็ดีขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากมีลมพัดผ่านเข้ามาจากภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่มีจุดความร้อนเกิดขึ้นจำนวนมาก อย่างข้อมูลล่าสุดจาก GISTDA ได้รายงานจุดความร้อนในประเทศเมียนมา สูงกว่า 5,000 จุด, กัมพูชา กว่า 1,000 จุด และประเทศไทย 730 จุด ซึ่งลดลงจากห้วงก่อนที่สูงถึง 2,000-3,000 จุด โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ป่า ขณะที่ภาคการเกษตรสามารถควบคุมได้ดี

อย่างไรก็ตาม ในห้วงสัปดาห์หน้า 14-16 มีนาคมนี้ จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นอีกครั้ง เนื่องจากลมจะค่อนข้างนิ่ง อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ และจะมีลมพัดมาจากภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งโดยเฉพาะจังหวัดที่ติดแนวชายแดนซึ่งจะได้รับผลกระทบมากที่สุด