สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขึ้นเวทีปราศรัยที่จัตุรัสแดง ใจกลางกรุงมอสโก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในโอกาสครบรอบ 10 ปี การผนวกคาบสมุทรไครเมีย ที่อยู่ทางตอนใต้ของยูเครน โดยกล่าวว่า “ประชาชนในพื้นที่ เลือกที่จะกลับคืนเป็นส่วนหนึ่งของมาตุภูมิ”


ขณะเดียวกัน การปรากฏตัวท่ามกลางสาธารณชนของปูตินครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งรัสเซีย ยืนยันผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งมีการลงคะแนนระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าปูติน วัย 71 ปี ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน “ถล่มทลาย” 87.28% ดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซียต่อเป็นสมัยที่ 5 จนถึงปี 2573 “เป็นอย่างน้อย” แม้ไม่ใช่การดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง แต่ถือว่า ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่สมัยนายโจเซฟ สตาลิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งปกครองประเทศยาวนาน 30 ปี

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ปราศรัยท่ามกลางมวลชนมหาศาล ที่จัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขยายวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จาก 4 ปี เป็น 6 ปี โดยไม่นับวาระการดำรงตำแหน่งที่ผ่านมาของปูติน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซีย ระหว่างปี 2543-2551 แล้วเว้นวรรคมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนชนะการเลือกตั้ง และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2555


ขณะที่จีน อินเดีย อิหร่าน เวเนซุเอลา และเกาหลีเหนือ พร้อมใจกันออกมาแสดงความยินดีกับชัยชนะของปูติน สวนทางกับท่าทีของฝ่ายตะวันตก นำโดยสหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่พร้อมใจกันออกมาประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าชัยชนะของผู้นำรัสเซีย “ไม่ได้มาตามกระบวนการประชาธิปไตย”


ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ปูตินต้องการเป็นผู้นำรัสเซียตลอดชีวิต และเรียกร้องสภาคองเกรสในกรุงวอชิงตัน ผ่านกฎหมายความช่วยเหลือรอบใหม่ เพื่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของยูเครนมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.15 ล้านล้านบาท).

เครดิตภาพ : AFP