สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 16 เม.ย. เกี่ยวกับความคืบหน้า เหตุการณ์เยาวชนชายวัย 15 ปี บุกเข้าไปภายในโบสถ์ของชาวอัสซีเรีย ทางตะวันตกของเมืองซิดนีย์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แล้วใช้มีดแทงผู้ที่อยู่ภายในโบสถ์ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน รวมถึงบิชอปอาวุโส ซึ่งกำลังเทศนา


สำนักงานตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่เกิดเหตุ ออกแถลงการณ์ว่า ผลการตรวจสอบบริบทแวดล้อมทั้งหมด บ่งชี้เหตุการณ์ดังกล่าว “เป็นการก่อการร้าย” เนื่องจากมือมีด “มีแนวคิดหัวรุนแรงทางศาสนา” และผู้ก่อเหตุ “เป็นที่รู้จักของเจ้าหน้าที่” แต่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังเป็นผู้ก่อการร้าย


ขณะที่นายไมค์ เบอร์เจสส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า ณ จุดนี้ ทุกฝ่ายเชื่อว่าคนร้ายลงมือเพียงลำพัง และยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับเตือนภัยการก่อการร้าย


ในเวลาเดียวกัน สำนักงานมุขมนตรีแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ พร้อมหน่วยงานความมั่นคง และผู้นำทุกศาสนาในชุมชน ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังชายวัย 40 ปี ใช้มีดไล่แทงประชาชน ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งของเมืองซิดนีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญ และมีการเปิดเผยในเบื้องต้น ว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช.

เครดิตภาพ : AFP