วันที่ 19 มี.ค. น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรนอกสถานที่ จ.พะเยา ว่า ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้วางแนวทางพัฒนาท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด คือ จ.เชียงราย จะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมให้เป็นเมืองสุขภาพดีหรือเวลเนสซิตี้ เพราะขึ้นชื่อเมืองแห่งชาและกาแฟ และกีฬา

ขณะที่จังหวัดพะเยา จะส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยร่วมมือกับเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและภาคเอกชนและผลักดันกิจกรรมการท่องเที่ยวสีขาว ที่มีองค์ประกอบของความสะดวกสะอาดปลอดภัยเป็นธรรมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้แผนบีซีจี พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและอาหาร ส่วนด้านกีฬาจะนำการแข่งขันในระดับประเทศมาจัดการแข่งขันในจังหวัดพะเยา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน จ.น่าน จะขับเคลื่อนเมืองน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือองค์การยูเนสโก และพัฒนาชุมชนในจังหวัดน่านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ส่วน จ.แพร่ จะมีการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้สนองตอบต่อการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัดด้วย

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในภาคเหนือปี 67 คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน สูงกว่าปี 66 ที่มีนักท่องเที่ยวถึง 39.48 ล้านคน แยกเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 34.87 ล้านคน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 4.61 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ท่องเที่ยวในปี 62 พบว่า ผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมดเพิ่มขึ้น 9.65% ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ปี 66 ทั้ง 4 จังหวัด มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เมื่อเทียบกับช่วงปี 56 ก่อนเกิดสถานการณ์ โควิด-19 เนื่องจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในเมืองรองที่ขยายตัว 15.95% จากการดำเนินมาตรการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมถึงกระแสความนิยมในสังคมออนไลน์ ส่งผลให้การท่องเที่ยวภาคเหนือในปี 66 ขยายตัวสูงกว่าปี 62 มากกว่า 9%