เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่มหาวิทยาลัยพะเยา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) กรณีที่มีบุคคลเตรียมยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีที่มีรัฐมนตรีไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า คนที่จะไปยื่นร้องเรียนคงคิดมากไป และใครที่จะไปร้องเรียนควรทำใจให้กว้าง มองที่ความเป็นมนุษย์ อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมือง หากมองทุกอย่างเป็นการเมืองจะคิดแต่เรื่องเอาชนะ ด้วยประเด็นเล็กน้อย สังคมไม่สงบ ประเทศเดินต่อไม่ได้เพราะเป็นการไปพบผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือไม่มีปัญหาอะไร และต้องตีความให้ชัดเจนว่าการแทรกแซงหรือครอบงำคืออะไร เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ไปพบผู้ใหญ่ หรือเจ้านายลูกน้องได้เจอกัน ไปเยี่ยมเยียนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้นายทักษิณมีกำหนดการที่จะเดินทางไปพื้นที่ใดอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะมาถามตนได้อย่างไร ต้องไปถามนายทักษิณ และไม่ได้เจอกับนายทักษิณ ที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากไปตรวจราชการในภาคอีสาน
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ห้ามให้ สส. ไปพบกับนายทักษิณใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะไปเจอใคร ทุกคนเป็นมนุษย์มีสิทธิไปพบ และกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามให้ไปพบใคร ส่วนตนหากมีโอกาสคงได้ไปพบในฐานะที่เป็นลูกน้อง ไปแสดงความเคารพและคิดถึงหลังจากที่ไม่ได้เจอมานาน และยอมรับว่าอยากเจอเช่นกัน
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ของนายทักษิณที่ จ.เชียงใหม่ จะทำให้ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยดีขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น การไป จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการไปเยี่ยมบ้าน เคารพสุสานบรรพบุรุษ อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด หากคิดอย่างนี้ทั้งหมดจะทำให้ชีวิตยุ่งยาก และทำให้หัวใจไม่สงบ เมื่อถามย้ำว่าการที่มีนักการเมืองและรัฐมนตรีหลายคนไปพบกับนายทักษิณ จะทำให้ถูกมองว่านายทักษิณเป็นศูนย์กลางอำนาจอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้อนว่า ศูนย์รวมอำนาจอะไร นายทักษิณเป็นศูนย์รวมของหลานที่มีอยู่หลายคน ไม่มีเรื่องศูนย์รวมอำนาจ ศูนย์รวมอำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ คิดว่าเป็นการทำเพื่อสร้างฐานเสียงของพรรคก้าวไกลที่มี สส.เชียงใหม่ 7 คน หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของนายพิธาที่ไปทำหน้าที่ของตัวเอง
