วันที่ 19 มี.ค. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ (นับตั้งแต่ 27 ก.พ.) ที่ระดับ 36.09 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 36.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นทิศทางที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึงเงินเยน หลังจากผลการประชุม BOJ ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาด (ทั้งในส่วนของการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นมาที่กรอบ 0.0-0.1% การยุติ Yield Curve Control (YCC) และการยกเลิกการเข้าซื้อ ETFs และ J-REITs) และสัญญาณจากผู้ว่าการ BOJ สะท้อนว่า ทิศทางนโยบายการเงินของญี่ปุ่นจะยังคงโน้มไปในเชิงทยอยลดมาตรการผ่อนคลาย และจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนไปในเชิงคุมเข้มทันทีในช่วงหลังจากนี้

นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าตามจังหวะฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งในวันนี้ขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยต่อเนื่องอีก 18,801.70 ล้านบาท และ 4,112 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 35.80-36.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ การประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของจีน รวมถึงผลการประชุม ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับทบทวนใหม่ และ dot plot ของเฟด