นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ เอสซี เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไม่เติบโตและยอดขายไม่ดีตามที่มีการคาดการณ์ไว้ จากการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดมากขึ้น เริ่มปล่อยกู้เฉพาะรายใหญ่ และผู้บริโภคมีหนี้ครัวเรือนสูงทำให้การตัดสินใจซื้อช้าลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายอยู่ในโหมดระมัดระวังการลงทุนหรือลงทุนแบบช้าๆ เพื่อไม่ให้ขาดทุน ซึ่งเห็นได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้ ที่ลดลงจากปีก่อน 10% ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ กู้ไม่ผ่านเยอะ และไม่มั่นใจในการซื้อ

“จากปี 66 ที่อสังหาฯ ขายไม่ดีแบบผิดคาด แต่ปีนี้ขายไม่ดีตามคาด เพราะในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ เริ่มเห็นการปฏิเสธสินเชื่อผู้ซื้อบ้านแนวราบราคามากกว่า 10 ล้านบาท ไปแล้วกว่า 10% จากช่วงก่อนโควิดมีการปฏิเสธสินเชื่อบ้านต่ำกว่า 10 ล้านบาท 10% หลังโควิดเพิ่มขึ้นกว่า 10% ส่วนบ้านที่ราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท ในอดีตยังปฏิเสธไม่ถึง 10%”

นอกจากนี้ คาดว่าภาพอสังหาฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า ลูกค้ายังต้องการคุณภาพความสะดวกและความปลอดภัย อีกทั้งมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น เพราะจะเหลือเฉพาะแค่รายใหญ่ที่มีเงินทุนและเทคโนโลยี ขณะเดียวกันรายใหญ่จะมีธุรกิจที่หลากหลาย ไม่มีใครทำธุรกิจอย่างเดียว รวมไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่มีการพูดคุยมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แนวทางที่จะช่วยกระตุ้นอสังหาฯ กลับมาเติบโตได้นั้น จึงอยากเสนอแนะภาครัฐเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านในไทย ด้วยการเปิดเวที่ให้ภาครัฐผู้ออกกฎเกณฑ์ เอกชนผู้สร้าง และผู้ซื้อมาร่วมพูดคุยร่วมกัน เพื่อช่วยสร้างโอกาสและป้องกันปัญหาเรื่องการขายชาติ เนื่องจากมองว่า การที่ต่างชาติซื้อบ้านในไทยมีทั้งข้อดีคือ ช่วยกระตุ้นอสังหาฯ ได้โดยตรง เพิ่มการลงทุนในประเทศ และช่วยในเรื่องท่องเที่ยวการแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่ข้อเสียคือหากมีการเก็งกำไร จะทำให้ราคาบ้านสูง และคนไทยซื้อบ้านไม่ทัน รวมทั้งมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน