เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการลงมติร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่า เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาและมั่นใจในวันนี้ ร่างงบฯ จะผ่านสภาล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องการให้ร่างงบฯ ผ่าน และคาดว่าต้นเดือนเม.ย. งบฯ ที่ทุกคนรออยู่จะได้นำออกไปใช้เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนงบประมาณปี 2568 จะมีการพิจารณากันในเดือนมิ.ย.นี้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวคว่ำร่างงบฯ ถึงขั้นเพื่อให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเรื่องดังกล่าวมาจากที่ไหน  ซึ่งคงเป็นพวกเดิมๆ ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่มีใครเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี

นายวิสุทธิ์ ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีการอภิปรายดุเดือดในช่วงค่ำวันที่ 21 มี.ค.ว่า เป็นความเสียใจของตน ที่โครงการฝายซีเมนต์  ที่เกิดจากภูมิปัญญาประชาชน ภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นำกระสอบทรายไปกั้นลำน้ำเป็นฝาย แต่พอหน้าฝนน้ำมาทำให้กระสอบทรายถูกน้ำพัดและเสียหาย ซึ่งทำกันทุกปี โดยใช้งบฯ ของกระทรวงมหาดไทยและของท้องถิ่นไปซื้อ กระสอบทรายแจกไปยังหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ เพื่อกักน้ำ เพราะภาคเหนือและภาคอีสานเป็นพื้นที่สูง ช่วงหน้าน้ำเรามีน้ำ พอปลายฤดูฝนน้ำก็หมดแล้ว จึงเกิดปัญหาขึ้น แต่คนอยู่กรุงเทพฯ ไม่ทราบว่าคนชนบทเขาใช้บ่อน้ำ คนที่คัดค้านโครงการนี้เจอแต่น้ำประปาและน้ำขวด สุขสบาย แต่พวกตนอยู่ในชนบท ในฤดูแล้งบางทีต้องนำรถอีต๊อก อีแต๋นไปนำน้ำมาใช้จากต่างตำบล แต่ในพื้นที่ที่เกิดปัญหามากๆ ท้องถิ่นแทบจะไม่มีเงินเติมน้ำมัน เพื่อใช้รถบรรทุกน้ำไปบริการประชาชน  ถ้าบริการทุกวันจะต้องใช้ปริมาณมหาศาล

ดังนั้นโครงการที่เกิดขึ้น เราไม่ได้คิดว่าเพื่อไทยจะทำหรือใครจะทำ แต่เราเห็นว่าท้องถิ่นทำ โดยร่วมกันบริจาคเงินสร้าง และมีมหาวิทยาลัยขอนแก่นมาช่วยให้ข้อคิดเห็น ซึ่งได้มีการทดลองเห็นว่าได้ผลจริงๆ เกิดประโยชน์ ชาวบ้านรู้สึกดี ประชาชนก็อยู่ได้ ส่วนคนที่ไม่เห็นอย่าจินตนาการ กล่าวหาว่าโครงการนี้ทำรวดเร็ว สำรวจแค่ 10 กว่าวัน  ซึ่งต้องบอกว่า ในตำบลหนึ่งอาจจะมีแค่ 10 หมู่บ้าน คนที่เป็น อบต. เกิดมาก็อยู่ในลำห้วยจะรู้ทุกห้วยว่ามีความกว้างเท่าไหร่ แล้วที่บอกว่าจะมาใช้เวลา 14 วันสำรวจได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่าไม่ได้สำรวจแม่น้ำ และย้ำว่าลำห้วยก็ไม่ได้ต้องไปขออนุญาตกรมเจ้าท่า แม้แต่ในลำน้ำกรมเจ้าท่ายังอนุญาตให้สร้างเพราะมันไม่มีเหล็ก ใช้แค่หินและทราย ผสมปูนแค่ 10-15% เป็นแค่ฝายชะลอน้ำ ซึ่งเมื่อน้ำไหลช้าลง ระบบนิเวศก็จะเกิดขึ้น น้ำเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับชาวไร่ชาวนา  และคนชนบท อย่าได้จินตนาการ

“ผมจึงขอเชิญชวนพรรคก้าวไกลทุกคน ทั้งหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้าน ลงพื้นที่ เราไปดีเบตด้วยกัน  ไปถามพี่น้องประชาชน ถ้าไม่ดีไม่มีประโยชน์ ไม่ถูก บอกผมมา ผมยินดีจะลาออกจากผู้แทนฯ แต่พวกท่านไม่ต้องออก แต่ผมอยากให้พวกท่านตาสว่าง เห็นความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจริงๆ  ได้เห็นว่าโครงการเกิดประโยชน์จริงๆ อย่าได้จินตนาการพูดจาแล้วบอกว่า น้ำปูนคนจะดื่มไปได้อย่างไร พวกผมไม่ได้ดื่มน้ำห้วย ดื่มน้ำในบ่อ ดื่มน้ำในขวด อย่าดูหมิ่น ที่มีอารมณ์เพราะต้องบอกว่าผมเสียใจ ที่พี่น้องประชาชนตั้งความหวังไว้กับโครงการนี้ทั้งประเทศ เป็นเรื่องของท้องถิ่นที่ได้ประโยชน์ ขอตัดโครงการไปผมเสียใจ ยอมรับว่ามีอารมณ์โกรธแทนพี่น้องประชาชน  เกษตรกรรอความหวังอันนี้” นายวิสุทธิ์ กล่าว และว่าที่เชิญลงพื้นที่นั้นยังไม่มีใครตอบรับ เมื่อถามกรณีที่มีข่าวว่า เพื่อไทย กับ สว. มีเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับงบประมาณโครงการนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เบื้องลึกเบื้องหลังที่ไปหากิน ตนขอสาบานต่อวัดพระแก้ว ถ้ามีความคิดทุจริตหากินแบบนี้ ขอให้ตนวิบัติ  แต่ถ้าไม่จริงขอให้ตนเจริญก้าวหน้า คนที่กล่าวหาตนถ้าไม่จริงตามที่กล่าวหา ขอให้คุณวิบัติทั้งครอบครัว 

นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปของ สว. ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ส่วนตัวยังเชื่อว่านายกฯ จะมารับฟังการอภิปราย ไม่เชื่อว่านายกฯ ไม่มา ก็มีการจินตนาการ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในโลกความเป็นจริง อันนี้ถ้าเราคิดแทนคนอื่น ทั้งนี้ เชื่อว่ารัฐบาลพร้อมตอบ เขาต้องให้เกียรติสมาชิกวุฒิสภา ไม่มีปัญหาเลย.