เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทาง รพ. มีผู้เข้ารับการรักษา 1,700 ราย ผู้ป่วยที่มารักษาการที่โรงพยาบาล จะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ที่มีอาการทางจิต ถึงถูกส่งเข้ามา ถ้าเป็นรายที่อาการไม่หนัก อาจจะไปรักษาที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ หรือโรงพยาบาลอื่นๆ ได้

“ใน 5 เดือนที่ผ่านมา ของปีงบประมาณตั้งแต่ ต.ค. 66-ก.พ. 67 พบว่ามีผู้ป่วยที่เข้ามารับการบำบัดแบ่งออกเป็นผู้ป่วยนอก 4,238 ราย ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ จากข้อมูลพบว่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้สารกระตุ้นระบบประสาท หรือยาบ้า 1,973 ราย สารเสพติดหลายขนาน 1,787 ราย แอลกอฮอล์ 742 ราย และจากข้อมูลการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตในขอนแก่นพบว่า มีจำนวน 1,700 กว่าราย ซึ่งถือเป็นยอดครึ่งหนึ่งของผู้ที่เข้ารับการรักษา”

นพ.ธรณินทร์ กล่าวต่ออีกว่า เฉพาะขอนแก่น พบ 5 อำเภอ ที่มีผู้ติดสารเสพติดที่มารับการรักษามากที่สุด ประกอบด้วย อำเภอเมือง 430 คน, น้ำพอง 140 คน, กระนวน 127 คน, บ้านฝาง 101 คน และ อ.หนองเรือ 74 คน โดยเฉพาะช่วงที่มีการกวดขัน ตามนโยบายช่วงนั้น ผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้น ตรวจพบมากขึ้นในพื้นที่ และส่งมาที่ รพ.จิตเวช ช่วงที่เยอะ เตียงอาจจะไม่เพียงพอ เพราะผู้ป่วยต้องใช้เวลารักษาตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะรักษาจนอาการทางจิตหายไป และจะส่งกลับไปยังชุมชน เข้าสู่กระบวนการบำบัดชุมชนตามนโยบายของทางกระทรวงสาธารณสุข

“หลังจากที่ขอนแก่นจัดตั้งศูนย์พักคอยผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด ช่วยแบ่งเบาภาระของ รพ.จิตเวช ได้มากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังออกผลได้ยังไม่เต็มที่ เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของการดำเนินการของขบวนการนี้อยู่ การบำบัดในชุมชนนี้ จะดำเนินการในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและการประเมินของแพทย์ที่รักษาด้วย และจะมีกระบวนการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และการส่งเสริมอาชีพให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย ถ้าสามารถทำได้แบบนี้เรื่อยๆ จะสามารถลดผู้ป่วยรายใหม่ที่จะกลับไปเสพยา จนกระทั่งมีอาการทางจิต และคาดว่าในอนาคต ผู้ป่วยยาเสพติดมีแนวโน้มจะลดจำนวนลง ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการอีกสักระยะจึงจะเห็นผลในอนาคต” ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ กล่าว.