เมื่อเวลา 13.15 น. เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่สโมสรราชพฤกษ์ เขตหลักสี่ กทม. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุม รับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 พิจารณางบการเงินของพรรคปี 2566 พิจารณาข้อบังคับพรรคภูมิใจไทย พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 และมีมติแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคจำนวน 16 คน แทนตำแหน่งที่ว่าง และการเลือกตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น

นายอนุทิน แถลงว่า การเลือกตั้งทุกครั้ง พรรคภูมิใจไทยจะมี  สส. เพิ่มมากขึ้น ค่อยๆ เติบโตขึ้นจากการทำงานหนักแลกกับคะแนนความไว้วางใจที่ประชาชนได้มอบให้ ความเติบโต และความก้าวหน้าของพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่เป็นการโตตามกระแส แต่โตด้วยผลงาน ปัจจุบันนี้เรามี สส. ที่ทำหน้าที่ในสภาถึง 71 คน เราจะพยายามทำเต็มที่ให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มากที่สุด และจะทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยได้พิสูจน์แล้วว่าพรรคเราเป็นพรรคที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีภารกิจที่จะปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อธำรงไว้ตามการปกครองที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ในส่วนนี้ต้องถือว่าเป็นดีเอ็นเอของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในคำพูด เมื่อพูดแล้วต้องทำ เรากล้าที่จะประกาศนโยบายต่อประชาชน ซึ่งดูแล้วเป็นนโยบายที่มีความยากลำบากที่จะทำให้สำเร็จแต่เราทำให้ได้ ไม่สิ่งไหนที่เราสัญญากับประชาชนแล้วเราไม่ได้ทำ เราเป็นพรรคการเมืองของประชาชน เราพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้สามารถทำงานและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย

นายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมใหญ่ฯ ของพวกเราในครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพรรค เราได้เห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคภูมิใจไทยจะต้องมีการปรับและเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร และแนวทางในการดำเนินงานของพรรค ตอบสนองต่อความต้องการ และแก้ปัญหาประชาชน ต้องทำงานเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ถ้าใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการทำงาน พรรคเรามั่นใจว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วขึ้น

“กรรมการบริหารพรรคทั้ง 16 คนเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์มากด้วยการศึกษา มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เป็น สส.ที่สัมผัสปัญหาประชาชน รู้พื้นที่เป็นอย่างดี ที่สำคัญทั้ง 16 คน มีแบ๊กดีทุกคน อย่างน้อยก็มีผมเป็นแบ๊กให้อีก 15 คน จะเห็นได้ว่าเราเปลี่ยนลุคใหม่ แต่นโยบาย จิตวิญญาณ ค่านิยมของพรรคเราที่จะทำงานรับใช้ประชาชน และประเทศชาติ ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง มีแต่จะเข้มข้นเพิ่มมากยิ่งขึ้นใน 16 คนนี้มีของทุกคน ไม่ได้มาตัวเปล่า ไม่ได้ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องสมาชิกพรรคให้มาบริหารพรรค  ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นในพลังของคนรุ่นใหม่ของพรรคภูมิใจไทย ที่ทุกคนผ่านสมรภูมิทำหน้าที่สำคัญๆ ต่างๆ มาแล้ว แสดงให้เห็นในรัฐสภา และในรัฐบาล ด้วยแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามเทรนด์ของโลก กรรมการบริหารพรรคฯ ชุดนี้เรียกได้ว่าเป็นเจนใหม่ บ้านใหญ่ และพร้อมทำการพัฒนาประเทศชาติ และรับใช้ประชาชนคนไทยทุกคน ด้วยความเสียสละทุ่มเท มุ่งมั่น และยั่งยืน” นายอนุทิน  กล่าว

เมื่อถามว่า ถือเป็นการถ่ายเลือดใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เป็นการผลัดวิตามิน”

เมื่อถามว่า แล้วคนรุ่นเก่าของพรรคจะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า มีคนบอกว่าบ้านใหญ่ไม่มีแล้ว ตนว่าไม่ใช่ ผู้มีประสบการณ์ทั้งหลายมีทั้งประสบการณ์ และบารมีแต่นี่คือหลักการบริหารงานแบบใหม่ เปลี่ยนแปลงการบริหารงาน ไม่ใช่ไปรอจนหมดอายุ แล้วค่อยมาเปลี่ยนแปลง แต่เราเร่งเปลี่ยนแปลงในตอนที่พรรคแข็งแรง มีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ไม่ใช่เด็กฝึกงานไม่ใช่มาทดลองงาน เพราะเขาทดลองงานมาเรียบร้อยแล้ว ผ่านสนามเลือกตั้งทางการเมืองมาแล้ว ต้องถือว่าได้ผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดมาแล้ว จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องฝีมือความตั้งใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเข้ามาแล้วทำงานได้เลย 


“ผมยืนยันว่าไม่มีใครมาบังคับ ผมรอวันนี้มานาน ผมคิดว่าวันหนึ่งผมก็ต้องไปเป็นเบื้องหลังคอยให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ แต่ช่วงนี้เป็นการต่อเนื่องเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสมูทราบรื่นที่สุด ผมก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ที่เป็นคนรุ่นใหม่แทนที่กรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 คนต้องปรับตัวเข้ากับผม” นายอนุทิน กล่าว.