เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนรายหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี หลังตนเองนั้นได้รับบิลค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ใช้ตามจริง หลังจากที่ได้ทำการเปลี่ยนหม้อมิเตอร์ใบใหม่มาได้เพียง 1 เดือน จากเดิมที่เคยเสียเพียงเดือนละ 300 กว่าบาท กลายเป็น 5,000 กว่าบาท ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเช่าเลขที่ 231/7 ถนนศรีอุทัย ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี พบกับ นายเฉลิมศักดิ์ แม้นพยัคฆ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าว เล่าว่า ตนเองนั้นได้เช่าบ้านหลังนี้อยู่กับลูกชาย มานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะอยู่กันแค่ 2 คน จึงไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้าอะไรกันมาก รวมๆ แล้วแต่ละเดือนจะใช้ไฟกันอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าประมาณ 300 กว่าบาท เพราะที่ห้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแค่ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ทีวี พัดลม เครื่องซักผ้า แค่นั้น

จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทางไฟฟ้าได้เข้ามาเปลี่ยนมิเตอร์วัดค่าการใช้ไฟฟ้าใหม่ เพื่อให้เป็นระบบที่มีตัวเลขดิจิทัลขึ้นมา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกันทั่วจังหวัด ตนเองนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ต่อมาบิลค่าไฟฟ้ากลับไม่มีส่งมาให้เหมือนทุกครั้ง ก็เริ่มเอะใจ กลัวว่าจะโดนตัดหม้อ เลยเอาบิลค่าไฟฟ้าเก่ามาลองสแกนดู ก็พบว่ามียอดค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. อยู่ที่ 1,084 หน่วย ยอดค้างชำระเป็นเงินจำนวน 5,374.77 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจ และคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ

“สาเหตุน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนหม้อ หรือมิเตอร์ใหม่อย่างแน่นอน และความผิดพลาดในครั้งนี้ น่าจะเป็นที่เจ้าหน้าที่ที่มาจดหน่วยมากกว่า ที่อาจจะจดผิดแล้วไม่ได้แจ้งให้ทางการไฟฟ้า หรือเจ้าหน้าที่ออกบิลแก้ไข ซึ่งบิลค่าไฟฟ้าเดือน มี.ค. ที่นำมาส่งนี้ ก็มียอดเท่าปกติที่ 100 กว่าหน่วย ยอดเงินที่ต้องชำระอยู่ที่ 322 บาท มีเพียงเดือน ก.พ. เดือนเดียวเท่านั้น ที่สูงเกินจริง” ผู้ร้องเรียน กล่าว

ผู้ร้องเรียน กล่าวต่อว่า ตัวเองนั้นเป็นลูกจ้างส่งแก๊ส ได้เงินค่าแรงแค่วันละ 300 บาท ไม่มีกำลังมากพอที่จะมาชำระค่าไฟฟ้ายอดเดือน ก.พ. ที่มียอดค้าง 5,000 กว่าบาทได้ หากเจ้าหน้าที่จะมาตัดไฟก็คงต้องยอม เพราะมันเกินกำลังตนเองจริงๆ ซึ่งทางตัวเองก็ได้ทำการแจ้งเรื่องดังกล่าวนี้ไปแล้ว ประมาณ 5 วัน แต่ก็ยังไม่มีคนของการไฟฟ้าติดต่อมาแต่อย่างใด.